สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 5 เม.ย. 65
ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักมากบริเวณ จ.นราธิวาส (139 มม.) จ.นครศรีธรรมราช (137 มม.) และ จ.สุราษฎร์ธานี (131 มม.)
ปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั้งประเทศทุกขนาด 26,370 ล้าน ลบ.ม. (46%) ขนาดใหญ่ 20,562 ล้าน ลบ.ม. (43%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 3 แห่ง (เขื่อนแม่งัด ภูมิพล และ สิริกิติ์)
คุณภาพน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน บางปะกง แม่กลอง อยู่ในเกณฑ์ปกติ ปริมาณออกซิเจนละลายในแม่น้ำ ที่ท่าจีน ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
กอนช. ประกาศฉบับที่ 8/2565 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในช่วงวันที่ 5-8 เมษายน 2565 และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อบูรณาการความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที และประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และพิจิตร เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและเร่งรัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ ช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาบึงสีไฟ จ.พิจิตร การดำเนินการโครงการบางระกำโมเดลปี 2565
โดยมอบหมาย สทนช.บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้กำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตาม 9 มาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 รวมถึงเร่งรัดโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงสีไฟและโครงการฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตรให้แล้วเสร็จตามแผน
ทั้งนี้ ยังได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมมาตรการรับมือน้ำหลากโดยบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ทุ่งบางระกำ และอีก 10 ทุ่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ประสบปัญหาอุทกภัยเป็นประจำทุกปี โดยมอบให้กรมชลประทานและกรมทางหลวงชนบท จัดทำแผนงานโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงการบางระกำโมเดลในการหน่วงน้ำให้ได้มากขึ้นและดำเนินการปรับปรุงยกระดับถนน คันคลอง และปรับปรุงอาคารชลประทานในพื้นที่โครงการ รวมถึงมอบให้กรมชลประทานและกรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งจัดทำแผนงานพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ใน จ.พิษณุโลก เพื่อป้องกันอุทกภัยและภัยรวมทั้งมอบให้กรมชลประทาน พิจารณาทำแผนพัฒนาโครงการในลุ่มน้ำยม โดยการก่อสร้างประตูระบายน้ำเพื่อเก็บกักน้ำเป็นแบบขั้นบันไดและการพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำในพื้นที่ต้นน้ำด้วย