“บิ๊กตู่” ยันดูแลคุณภาพชีวิตคนกรุงทุกจุด
โฆษกรัฐบาลเผย “นายกฯ” เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพ ฯ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 11 สายรถไฟฟ้า เพิ่มพื้นที่สีเขียว “สวนเบญจกิติ” พัฒนา 50 คูคลอง จัดระเบียบสายสื่อสาร นำสายไฟฟ้าลงดิน และให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้าน/ที่อยู่อาศัย ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การบริหารของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญและใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มทั่วประเทศ รวมทั้งประชาชนในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร เร่งนำนโยบายสู่การปฏิบัติ ยกระดับชีวิตคนกรุงเทพฯ สร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ พัฒนาคุณภาพน้ำ จัดระเบียบสายสื่อสาร นำสายไฟฟ้าลงดิน และให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงที่อยู่อาศัยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยรัฐบาลทำมาอย่างต่อเนื่องและเกิดผลเป็นรูปธรรมและประโยชน์ต่อประชาชนในหลายด้านแล้ว เช่น การปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาคุณภาพน้ำ 50 เขต 50 คลองใส ที่ดำเนินการในปี 2564 อาทิ ขุดลอกคลอง ปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลอง พัฒนาทางเดิน ปลูกต้นไม้แนวริมคลอง ยังให้เร่งแก้ปัญหาน้ำเสียในคลองแสนแสบ โดยอาศัยกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ดำเนินการการจัดตั้งเครือข่ายด้านการจัดการน้ำเสียภายในชุมชน รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงคลองให้สามารถช่วยระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร บรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในบางพื้นที่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสั่งจัดระเบียบสายสื่อสารต่าง ๆ รวมทั้งสายไฟฟ้าลงดิน โดยในปี 2564 ที่ผ่านมาได้นำสายไฟฟ้าลงใต้ดินแล้วเสร็จสะสมระยะทางรวม 55.7 กิโลเมตร เช่น โครงการสีลม โครงการจิตรลดา โครงการปทุมวัน รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยวางเป้าหมายที่จะมีการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมดภายในปี 2568 ระยะทางสะสม 215.6 กิโลเมตร ขณะเดียวกันก็ได้มีการจัดระเบียบสายสารสื่อสาร แล้วเสร็จระยะทาง 100 กิโลเมตร และมีแผนดำเนินการเพิ่มอีกต่อเนื่องในปี 2565 -2567 รวม 1,400 กิโลเมตร เพื่อความเป็นระเบียบ เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมทั้งยังติดตามความก้าวหน้าในการจัดสร้างสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” ซึ่งมีเนื้อที่รวมประมาณ 450 ไร่ เพื่อให้เป็นสวนป่ากลางกรุง เป็นแหล่งพักผ่อน รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและระบบนิเวศน์สำหรับนักเรียนนักศึกษา ซึ่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนเมษายน 2565 เพื่อจะร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 และจะได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าใช้ประโยชน์อย่างเป็นทางการต่อไป
นายกรัฐมนตรียังเดินหน้าเชื่อมโยงระบบขนส่งครบวงจรทั้งทางบก ราง และน้ำ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างเท่าเทียม สะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย แก้ปัญหาการจราจรในเมืองใหญ่อย่างยั่งยืน โดยมีรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้ว 11 เส้นทาง 211.94 กม. 141 สถานี นอกจากนี้ ยังมีรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการ PPP จำนวน 6 โครงการ 71.49 กม. 38 สถานี เช่น ตลิ่งชัน – ศิริราช (สีแดงอ่อน) วัชรพล – ทองหล่อ (สีเทา) เป็นต้น รวมไปถึงรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมโครงการ จำนวน 9 โครงการ 120.78 กม. 81 สถานี เช่น บางแค – พุทธมณฑลสาย 4 (สีน้ำเงิน) หัวลำโพง – วงเวียนใหญ่ – มหาชัย (สีแดงเข้ม) แคราย – ลำสาลี (บึงกุ่ม) (สีน้ำตาล) เป็นต้น
ล่าสุดนายกรัฐมนตรี เป็นสักขีพยานในการมอบนโยบายด้านการอยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุของรัฐบาล ภายใต้โครงการบ้านเคหะสุขเกษม เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อมุ่งช่วยเหลือประชาชน เน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง เข้าถึงการมีที่อยู่อาศัยได้มากขึ้นลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
“นอกจากการใส่ใจพัฒนากรุงเทพ ฯ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองแล้ว ท่านนายกฯ ยังได้ติดตามการสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมากในแต่ละวัน โดยให้เร่งค้นหาสาเหตุและปัจจัยเสี่ยง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพควบคุมการแพร่ระบาดโควิด -19 ต่อไป” นายธนกร กล่าว