หนี้บ้านไม่เป็นสึนามิ
ธอส.มั่นใจหลังจากสถานการณ์โควิดผ่านพ้น โอกาสที่ลูกหนี้ชักดาบ น้อยมากเพียง 2 หมื่นราย จากลูกหนี้เข้าร่วมโครง การ 1.2 แสนราย “ฉัตรชัยยืนยันไม่เป็นสึนามิ อย่างแน่นอน พร้อมเตือนลูกหนี้ที่ผ่อนบ้านระวังอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นกระทบเงินงวดรายเดือน เงินกู้ 1 ล้านเงินงวดเพิ่มขึ้นละ 500 บาท
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ ธอส.ออกมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบภายใต้เงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ตลอดช่วงระยะเวลา 14-18 เดือน ที่ผ่านมา สรุปว่า สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ของธนาคารไม่ได้เป็นสึนามิอย่างที่คาดการณ์ แม้ว่า ลูกหนี้เกือบทั้งหมดของธนาคารมีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นวงเงินกู้เงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ถือเป็นลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด19 มากที่สุด
“ช่วงที่ผ่านมา มีลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 122,000 ราย เป็นไปตามมาตรการของธปท.กล่าวคือ พักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รวมทั้งหมด 22 มาตรการ โดย ณ สิ้นเดือนธ.ค.2564 ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว แต่ได้ต่อมาตรการเพิ่มเติมให้ลูกหนี้กลุ่มนี้ โดยเดือนม.ค. เป็นเดือนแรกที่เริ่มต้นจ่ายหนี้ แต่ไม่มาชำระหนี้ 9,000 ราย และเมื่อรวมกับลูกหนี้ที่หายหน้าหายตาหรือขาดการติดต่อประมาณ 11,000 ราย รวมมีลูกหนี้กว่า 20,000 ราย หรือประมาณ 20,000 ล้านบาทที่คาดว่า เป็นเอ็นพีแอล จึงไม่ใช่เป็นสึนามิ ที่มีหนี้เสียเป็นเอ็นพีแอลระดับแสนล้านบาท”
ส่วนทิศทางดอกเบี้ยนั้น ยอมรับว่าขณะนี้เป็นขาขึ้นปีแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี2540 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ระดับต่ำสุด 0.50% เป็นระยะเวลานาน ทำให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย และต้นทุนเงินของ ธอส.เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% มีผลทำให้ภาระเงินผ่อน หรือเงินงวดค่าบ้านเพิ่มขึ้น หากกู้ 1 ล้านบาท จะมีภาระเพิ่มขึ้น 500 บาท ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี
“ตอนนี้ ประเมินว่า วงเงินสินเชื่อคงค้าง 1.4 ล้านล้านบาท จะมีลูกหนี้ได้รับผลกระทบจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นประมาณ 35% หรือประมาณ 490,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ 50% เป็นลูกหนี้ที่มีรายได้ประจำ และอีก 50% เป็นลูกหนี้ที่อาชีพอิสระ โดยเฉพาะลูกหนี้ที่มีอาชีพอิสระน่าเป็นห่วงมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่มีรายได้ไม่แน่นอน”
สำหรับผลการดำเนินงาของ ธอส.ปี 2564 ปล่อยสินเชื่อใหม่สูงสุดในรอบ 68 ปี ที่จำนวน 247,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.65% สูงกว่าเป้าหมาย 31,234 ล้านบาท สินเชื่อคงค้าง 1,458,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.40% สินทรัพย์รวม 1,506,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.04% เงินฝากรวม 1,274,849 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.74% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 58,381 ล้านบาท คิดเป็น 4% ของยอดสินเชื่อรวม ขณะที่ปี2565 คาดว่า สินเชื่อจะขยายตัวประมาณ 3% หรือคิดเป็นยอดรวม 220,000 ล้านบาท