‘ดิจิทัล ลอตเตอรี่’ มาแล้ว
สลากฯ พร้อมแล้ว “Digital Lottey” แพลตฟอร์มออนไลน์ตัวเอง ดัดหลังตลาดมืด ขบวนการปั่นดันหวยแพง มั่นใจลอต เตอรี่รูปแบบเดิมไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เปลี่ยนวิธีการขายจากใบมาเป็น “ดิจิทัล”
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ ถนนทุกสายกำลังมุ่งสู่การขายสลากกินแบ่งแบบออนไลน์ ไม่ว่ารูปแบบนั้น จะเป็นเว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มก็ตาม ดังนั้น ผู้สลากจะต้องปรับ ตัวให้ทันกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“สำนักสลากฯ ก็มีแพลตฟอร์มเหมือนกัน ภายใต้ชื่อ Digital Lottey ซึ่งขณะนี้ เราออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการเสนอให้ สคร.พิจารณา ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ เพื่อช่วยยืนยันว่า แพลตฟอร์มสลากของเราไม่ใช่การออกสลากรูปแบบใหม่ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่”
นายธนวรรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ทุกฝ่ายเป็นห่วงเรื่องสลากราคาแพง รวมถึงเราด้วยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่นับว่าโชคดีที่ตอนนี้ ฝ่ายการเมืองก็มองเห็นตรงกับเราว่า สลากมีราคาแพง จึงจำเป็นต้องจัดการอย่างจริงจัง
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิตในฐานะประธานสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ กำลังดำเนินการหลายวิธีเพื่อให้สลากมีราคาขายปลีกฉบับละ 80 บาท อย่างน้อยๆ ก็ 3 วิธีคือ
1. เปิดให้ลงทะเบียนผู้ขายสลากอย่างเป็นทางการ จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค.นี้ คาดว่า จะมีประชาชนสนใจลงทะเบียน 1 ล้านคน จากปัจจุบันมีประชาชนลงทะเบียนแล้ว 878,454 คน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ค้าสลากตัวจริง มีโควตาสลากเป็นของตนเอง ไม่ต้องซื้อสลากจากยี่ปั๊ว และซาปั๊วอีกต่อไป
2.การเปิดให้มีแพลตฟอร์มจำหน่าย ในราคาฉบับละ ไม่เกิน 80 บาท เพื่อให้ผู้ค้าสลากมีช่องทางใหม่ๆ ในการขายสลากถึงมือประชาชน
3.ตั้งทีมเฉพาะกิจร่วมระหว่างสำนักสลากฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจับกุมกระบวนการรวบรวมสลากเพื่อปั่นขาย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ หลังจากจับกุมการรวบรวมสลากที่อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท
นายลวรณ กล่าวว่า การลงทะเบียนผู้ค้าสลากหลังจากที่ได้ปิดรับสมัครในวันที่ 31 ม.ค.นี้ สำนักงานสลากฯ จะคัดกรองผู้ที่ผ่านคุณสมบัติให้แล้ว และจะเริ่มให้ผู้ค้าสลากจำหน่ายใหม่ ในงวดที่ออกรางวัล วันที่ 2 พ.ค.นี้
“สำนักงานสลากฯ ยืนยันว่า จะอนุมัติผู้ค้าสลากฯ รายใหม่ได้ ไม่เกิน 200,000 ราย แม้จำนวนผู้สมัครจะทะลุเกิน 1 ล้านคน โดยสำนักงานสลากฯ จะให้สิทธิ์กับผู้ค้าสลากเดิม หรือผู้ค้าสลากตัวจริงก่อนเป็นอันดับแรก”
พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่าโครงการจำหน่ายสลากราคา 80 บาท ปัจจุบัน มีอยู่ทั้งหมด 77 จุด ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี โดยจะเพิ่มจุดจำหน่าย 80 บาทให้ได้ 1,000 จุดทั่วประเทศหรือทุกอำเภอ ล่าสุดมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ 4,790 จุด มีสมัครครบทุกอำเภอ จำนวน 15 จังหวัด จากทั้งหมด 77 จังหวัด จำนวน 691 อำเภอ ยังขาดอยู่อีก 237 อำเภอ โดยในเบื้องต้น จะเกลี่ยผู้สลาก 80 บาทให้ครบทุกอำเภอก่อน ถ้าไม่สามารถเกลี่ยได้ ก็หาวิธีการอื่นที่เหมาะสมต่อไป