โครงการรัฐฯกระตุ้นตลาดปูนในประเทศ คาดเติบโต 3-4%
เอสซีจี ประเมินการใช้ปูนซีเมนต์ปี 62 ยังมีแรงเติบโตจากโครงการภาครัฐและเอกชนเริ่มลงทุนบ้าง ดันการใช้ปูนภายในประเทศเติบโตได้ 3-4% พร้อมเปิดตัวนวัตกรรม 3D Cement Extrusion Printing เทคโนโลยีการขึ้นรูปด้วยปูนซีเมนต์สูตรพิเศษ ช่วยลดความสูญเสียจากงานก่อสร้างถึง 30% แก้เรื่องขาดแคลนแรงงาน ด้าน “ตราเพชร” ระบุเศรษฐกิจในปี 62 คงจะไม่สดใสนัก เหตุปัจจัยเศรษฐกิจโลกเติบโตต่ำ
นายสยามรัฐ สุทธานุกูล Chief Marketing Officer-Cement and Construction Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดปูนซีเมนต์ในปี 2562 ว่า ” ยังเติบโตต่อเนื่องประมาณ 3-4% จากสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นของตลาดภาพรวม และความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในงานโครงการภาครัฐบาลและการเพิ่มขึ้นของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนภาคสินค้าก่อสร้งกลุ่มที่อยู่อาศัย และเซรามิค ยังเติบโตตามกลุ่มซีเมนต์ และด้วยภาวะต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้การลงทุนของเอสซีจีน ยังคงเน้นลงทุนในโครงการที่พัฒนาด้านต้นทุน ให้กับธุรกิจตลอดปี62 โดยในกลุ่มเอสซีจี ซิเมนต์ วางเป้าเติบโต 5-10% “
และจากสภาพการแข่งขัน และพฤติกรรมลูกค้า ทำให้เอสซีจี ต้องปรับตัวให้ทัน พร้อมกับนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวยความสะดวก สามารถตอบ Pain Point ลูกค้า ในขณะที่ตลาดแรงงานยังขาดที่มีฝีมือ ล่าสุด จึงได้พัฒนาเทคโนโลยี 3D Cement Extrusion Printing ใช้ในการผลิตชิ้นงาน 3D printing ที่ใช้ปูนซีเมนต์เป็นวัสดุหลัก เรียกว่า “3D Cement Extrusion Printing Mortar” เป็นการขึ้นรูปด้วยปูนซีเมนต์สูตรพิเศษ โดยจะมีน้ำหนักเบากว่าประเภทอื่นถึง 30% ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ รวมถึงลดความสูญเสียจากงานก่อสร้างได้ถึง 30%
“จากการประมาณการความต้องการของตลาดและเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ ของนวัตกรรมดังกล่าว วางยอดขายไว้ 100 ล้านบาท โดยสัดส่วนมาจากการขายในประเทศ 10% และต่างประเทศ 90% และมีการขายบริการโซลูชั่นไปให้กับทางลูกค้าในประเทศอินเดีย สเปน และประเทศในยุโรป รวมทั้งอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการทำตลาดในประเทศไทยจะมีมากขึ้น คาดในอีก 3-5 ปี สัดส่วนจะเพิ่มเป็น 30% และต่างประเทศอยู่ที่ 70% ”
ด้าน นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวคาดว่า ” เศรษฐกิจในปี 2562 คงจะไม่สดใสนัก เพราะมีการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำ สำหรับประเทศไทยคาดว่ายังเติบโตอยู่บ้างแต่ก็ไม่สูงนัก อย่างน้อยในอัตราที่ใกล้เคียงกับปี 2561 สำหรับแนวโน้มปี 2562 กลุ่มบริษัท ยังคงตอกย้ำจุดแข็งด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ตราเพชร ภายใต้แนวคิด ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง พร้อมบริหารจัดการด้านการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นตามเป้าหมายที่ 25-27% ถึงแม้ว่าในปีนี้ภาวะต้นทุนวัตถุดิบบางรายการจะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า ด้วยแนวทางการดำเนินงานในปีนี้ จะผลักดันให้ปี 62 เติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ได้แน่นอน.”.