คปภ.เร่งประกันจ่ายฯ 5 ศพ จ.ชัยภูมิ
คปภ.เร่งรัดบริษัทประกันจ่ายค่าสินไหมฯกรณีรถกระบะปะทะรถพ่วง 22 ล้อ ตาย 5 ศพ ที่ จ.ชัยภูมิ ระบุนัดจ่ายเงิน 21 ก.พ.นี้
กรณีเกิดอุบัติเหตุทางถนน ระหว่างรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บน 6367 เลย กับ รถยนต์บรรทุกพ่วง 22 ล้อ (หัวลาก) ทะเบียน 70-4176 อุดรธานี ส่วน (ตัวพ่วง) ทะเบียน 70-5180 อุดรธานี เฉี่ยวชนกันบนทางหลวง 201 ถนนสายชัยภูมิ-สีคิ้ว ขาออก บริเวณบ้านกุดละลม ม. 9 ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ชาย 3 ราย หญิง 2 ราย ซึ่งโดยสารมากับรถยนต์กระบะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า เบื้องต้นสั่งการ สำนักงาน คปภ. จังหวัดชัยภูมิ ตรวจสอบและลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยอย่างใกล้ชิด ตลอดจนติดตามเร่งรัดให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพื่อเยียวยาความสูญเสียโดยเร็ว ด้วยห่วงใยครอบครัวผู้เสียชีวิต จึงได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และ สำนักงาน คปภ. จังหวัดชัยภูมิ ติดตามบริษัทประกันภัยเพื่อเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม และใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้ง 5 ราย อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
จากรายงานเบื้องต้นจากพบว่า รถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 1 ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 2 ธ.ค.62 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่ายกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. 300,000 บาทต่อคน รวมแล้วไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง) ความเสียหายต่อทรัพย์สิน 600,000 บาทต่อครั้ง กรณีเกิดความเสียหายต่อรถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้ จำนวน 270,000 บาทต่อครั้ง สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน 50,000 บาท ผู้โดยสาร 9 คน 50,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาทต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาทต่อครั้ง
ในส่วนของรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ (หัวลาก) ทะเบียน 70-4176 อุดรธานี ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย สิ้นสุดความคุ้มครอง 30 มิ.ย.62 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. จำนวน 300,000 บาทต่อคน และ 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวน 1,000,000 บาทต่อครั้ง) สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน จำนวน 500,000 บาท ผู้โดยสาร 2 คน จำนวน 500,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 50,000 บาทต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ 500,000 บาทต่อครั้ง
ส่วน (รถพ่วง) ทะเบียน 70-5180 อุดรธานี ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 31 ธ.ค.62 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่ายกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. 300,000 บาทต่อคน และ 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน 1,000,000 บาทต่อครั้ง)
สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 5 ราย สำนักงาน คปภ. จังหวัดชัยภูมิ ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดและรายงานความคืบหน้าว่า ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้นำศพของผู้ประสบอุบัติเหตุ ทั้ง 5 ราย กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน อ.วังสะพุง จ.เลย ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดชัยภูมิ จึงประสานงานไปยัง สำนักงาน คปภ. จังหวัดเลย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัย ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากบริษัทประกันภัยว่าได้มีการติดต่อทายาทของผู้เสียชีวิต ทั้ง 5 ราย แล้ว และจะเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน และคาดว่าจะสามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนในวันที่ 21 ก.พ.นี้
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ อุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชนควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ และหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคสมัครใจ และกรมธรรม์ประกันภัยอื่นๆ เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยง และเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวสรุป.