พาณิชย์ ถก ผู้เลี้ยง ตรึงราคาไข่ไก่ อยู่ที่ 2.90 บาท/ฟอง
ลดค่าครองชีพ ช่วยประชาชน! พาณิชย์จับมือผู้เลี้ยง ตรึงราคาไข่หน้าฟาร์ม “ลดภาระค่าครองชีพประชาชน”
วันที่ 13 ม.ค. นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้นโยบายกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ขอให้ตรึงราคาไข่ไก่ไปก่อน และให้กรมการค้าภายในไปหารือกับผู้เลี้ยง จากนั้นกรมการค้าภายในได้หารือผู้เลี้ยงเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2565 ได้ข้อสรุปในเบื้องต้น จากนั้นให้ผู้เลี้ยงไปจัดทำข้อมูลรายละเอียดต้นทุน และนำมาหารือกันอีกครั้งวันที่ 13 ม.ค.2565 โดยหารือตั้งแต่ 10.00 น.ถึง 13.00 น.โดยมีนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน จนได้ข้อยุติวันนี้
“นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ถกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ตกลงตรึงราคาไข่คละหน้าฟาร์มที่ 2.90 บาทต่อฟอง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน และได้แถลงข่าวย้ำแล้วว่าขอให้ร้านค้า แผงไข่ ต้องลดราคาลงตามด้วย ส่วนทางด้านผู้เลี้ยงเขาก็ย้ำว่าหากวัตถุดิบขึ้นไม่หยุด จะขอหารือกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ทันที แต่ระหว่างนี้ร่วมมือกับกระทรวงในการตรึงราคาช่วยประชาชนไปก่อน ” นางมัลลิกา กล่าว
โดยวันนี้ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน รายงานว่า ทางกรมการค้าภายในได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ สมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่แปดริ้ว สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี สหกรณ์ผู้ลี้ยงไก่ไข่ลุ่มน้ำน้อย ผู้ผลิตรายใหญ่ กรมปศุสัตว์ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยผู้เลี้ยงไก่ไข่จะให้ความร่วมมือตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่ 2.90 บาท ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงสถานการณ์ด้านต้นทุนของผู้เลี้ยง ก็พบว่ามีการปรับตัวสูงขึ้นจริง โดยเฉพาะวัตถุดิบอาหารสัตว์ ซึ่งจะหารือกับผู้ผลิตอาหารสัตว์ และหาทางช่วยเหลือในการเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตกับผู้เลี้ยงต่อไป
และหลังจากนี้ โดยนโยบายแล้วก็ได้ให้ทางสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ สั่งการพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศตรวจติดตามสำหรับการจำหน่ายไข่ไก่ เมื่อผู้เลี้ยงไก่ไข่ได้ปรับราคาไข่คละลงมาแล้ว ผู้จำหน่ายส่งและปลีก จะต้องปรับลดราคาไข่ไก่ลงมาด้วย หากประชาชนพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ วันที่ 10 ม.ค.2565 ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ได้แจ้งปรับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม เป็นฟองละ 3.00 บาท เพิ่มขึ้นจากฟองละ 2.80 บาท หรือราคาปรับเพิ่มขึ้นแผงละ 6 บาท ทำให้แผงขายไข่ไก่ ร้านค้าจำหน่ายไข่ไก่ ได้ปรับราคาขึ้นทันที แต่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ขอให้ตรึงราคาไปก่อน และให้กรมการค้าภายในไปหารือกับผู้เลี้ยง จากนั้นกรมการค้าภายในได้หารือผู้เลี้ยงเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2565 ได้ข้อสรุปในเบื้องต้น ให้ผู้เลี้ยงไปจัดทำข้อมูลรายละเอียดต้นทุน และนำมาหารือกันอีกครั้งวันที่ 13 ม.ค.2565 จนได้ข้อยุติดังกล่าว
ทางด้าน นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า ที่ผ่านมา วัตถุดิบในการเลี้ยงไก่ไข่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้เลี้ยงแบกรับต้นทุนไม่ไหว จึงได้ประกาศขอปรับเพิ่มราคาไข่คละหน้าฟาร์มเป็นฟองละ 3.00 บาท แต่เมื่อได้มีการหารือกับกรมการค้าภายใน สมาคมที่เลี้ยงไก่ไข่ เข้าใจปัญหา และผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนจากการปรับขึ้นราคาไข่ไก่เป็นอย่างดี จึงได้ตกลงร่วมมือลดราคาไข่คละลงมาอยู่ที่ฟองละ 2.90 บาท จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้ หากราคาวัตถุดิบในการเลี้ยงไก่ไข่ยังขึ้นต่อเนื่อง กลุ่มผู้เลี้ยงไก่ไข่จะกลับมาหารือกับกรมการค้าภายในอีกครั้ง