“คณิศ” ปลื้มพีพีพีลงทุนในอีอีซีแล้ว6.5 แสนล้าน
“คณิศ” ปลื้มความสำเร็จเมกะโปรเจ็กต์ “อีอีซี” พีพีพี 6.5 แสนล้าน ลดภาระรัฐ เพิ่มมูลค่าศก.
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ – ดอนเมือง – อู่ตะเภา) โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3 ถือว่าเป็นความสำเร็จบนแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการลงทุนร่วมกันตามกฎหมาย พ.ร.บ.ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐหรือ Public Private Partnership (PPP)
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กล่าวว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญซึ่งเป็นหัวใจของโครงการอีอีซีถือว่ามีความก้าวหน้าตามแผนที่วางไว้โดยโครงสร้างพื้นฐานหลักใน อีอีซีได้ดำเนินการตามแนวทาง PPP ครบ 4 โครงการ มีการลงนามในสัญญาร่วมทุนระหว่างภาครัฐ และเอกชนเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้ง 4 โครงการ โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมกันเป็นวงเงิน 654,921 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในส่วนของภาคเอกชน 416,080 ล้านบาท และเป็นการลงทุนในส่วนของภาครัฐ 238,841 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าโครงการขนาดใหญ่ทั้ง 4 โครงการจะเห็นว่าการลงทุนทั้งหมดรัฐบาลไม่ต้องใช้งบประมาณมากนัก แต่จะช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมหลายเท่าตัว ทั้งสร้างงาน และสร้างรายได้รวมทั้งยังช่วยสร้างรายได้จากภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อมได้อีกมาก ทั้งนี้โครงการต่างๆมีแผนดำเนินการก่อสร้างที่ชัดเจนแล้วจะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2568 – 2570
โดยในอนาคตเมื่อโครงการต่างๆเปิดให้บริการก็จะมีรายได้นำส่งคลังได้อีกคิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน (NPV)กว่า 200,000 ล้านบาท นับเป็นความสำเร็จที่เกิดจากการสนับสนุนด้วยดีของภาครัฐ และความร่วมมือจากเอกชนถือว่าเป็นต้นแบบการทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนโครงการ PPP ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม สามารถเป็นต้นแบบการดำเนินการโครงการในลักษณะนี้ในพื้นที่อีอีซีรวมทั้งพื้นที่อื่นๆของประเทศได้อีกในอนาคต
“ย้อนหลังกลับไปในช่วง 3 ปีก่อน เรามีแนวคิดที่จะนำ Assets ของภาครัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร นำมาใช้อย่างเต็มที่ และสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่รัฐบาลไม่ต้องไปกู้เงินจากต่างประเทศ เพื่อมาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ แต่การลงทุนในอีอีซีจะสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกันกับรัฐและเอกชนในประเทศ ซึ่งช่วยลดภาระของภาครัฐ และสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเอกชนและเศรษฐกิจไทยได้ในระยะยาว”คณิศ กล่าว