เลือกตั้งดุ หวัง “รัฐบาลใหม่” แก้ระเบียบลดต้นทุน
ภาคเอกชน เชื่อ เลือกตั้งปีนี้ดุเดือด และช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้กับกลุ่มรากหญ้า ด้าน ค้าปลีก-ส่งออก หวัง รัฐบาลใหม่ ช่วยแก้ปัญหาอุปสรรค ด้านภาษี และกฎระเบียบ เพื่อลดต้นทุน
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวในงานสัมมนา “เศรษฐกิจไทยกับการเลือกตั้ง” ว่า การเลือกตั้งทั่วประเทศของไทยในปีนี้จะเป็นอีกครั้งที่มีความดุเดือดเข้มข้น และน่าจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในกลุ่มรากหญ้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่บรรยากาศของการเลือกตั้ง ก็จะทำให้มีเม็ดเงินลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจ คาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจในปีนี้เติบโตได้ในระดับ 4% ได้
สำหรับสถานการณ์ค้าปลีกไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เติบโตอยู่ในระดับ 3% ซึ่งต่ำกว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศนั้น ถือว่าเป็นภาวะที่ผิดปกติ เพราะหากเปรียบเทียบกับสถานการณ์ค้าปลีกของอาเซียนแล้ว จะพบว่าแต่ละประเทศมีการเติบโตของค้าปลีกอยู่ในระดับ 8-12% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูง
ทั้งนี้การเติบโตของค้าปลีกไทยที่ผิดปกตินั้น ส่วนหนึ่งมาจากตัวแปรเรื่องรายได้จากการท่องเที่ยว ที่แม้ประเทศไทยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศค่อนข้างมากในแต่ละปี แต่รายได้ที่ได้รับนั้นจะกระจุกอยู่ในส่วนของค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง ค่าที่พัก และค่าอาหาร ในขณะที่เป็นค่าใช้จ่ายด้านการช้อปปิ้ง ซื้อสินค้าค่อนข้างน้อย สาเหตุที่สำคัญมากจากโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย การมีร้านค้าปลอดภาษีที่ผูกขาดสัมปทานเพียงบริษัทเดียว และการมีจุดให้บริการคืนภาษีแก่นักท่องเที่ยวที่น้อยเกินไป ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้รับความสะดวกในการคืนภาษีจากการใช้จ่ายซื้อสินค้าในประเทศไทยเท่าที่ควร
ดังนั้นจึงคาดหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่จะเข้าใจและให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นของธุรกิจค้าปลีกไทย โดยต้องการให้ภาครัฐปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย การทำให้ธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีมีความโปร่งใส ตลอดจนการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวด้วยการเปิดจุดให้บริการคืนภาษีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะมีส่วนช่วยทำให้ธุรกิจค้าปลีกของไทยสามารถเติบโตได้ดีขึ้น และยังมีส่วนช่วยผลักดันเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี ในวันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.62) สมาคมผู้ค้าปลีกไทย จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับธุรกิจค้าปลีกของไทยด้วย
ด้าน น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก กล่าวว่า
สิ่งที่ผู้ส่งออกคาดหวังต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาช่วยแก้ปัญหา คือ การปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ให้เอื้อและอำนวยความสะดวกต่อการทำธุรกิจการค้า การเตรียมพร้อมด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อรองรับต่อการขยายตัวของการส่งออก และการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นถนน ท่าเรือ ระบบโลจิสติกส์ต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดต้นทุนให้แก่ภาคธุรกิจส่งออก ทำให้สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนั้นยังต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วยดูแลให้ค่าเงินบาทมีทิศทางที่สอดคล้องกับค่าเงินประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะไม่ให้แข็งค่าไปกว่าค่าเงินของประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งสำคัญทางการค้าของไทย ทั้งนี้ เพื่อให้สินค้าของไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และไม่เสียเปรียบด้านราคาจากประเทศคู่แข่ง