สรุปข่าวประจำ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (2 พ.ย.)เพิ่มขึ้น 138.79 จุด (0.39%) ปิดที่ 36,052.63 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 67.22จุด (0.42%) ปิดที่ 15,972.49 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 16.98 จุด (0.37%) ปิดที่ 4,630.65จุด ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด(2 พ.ย.) ที่ระดับ 1,617.89 จุด เพิ่มขึ้น 4.11 จุด (0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 76,900.88 ล้านบาท
น้ำมันโลก :
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 83.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 84.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทองคำขึ้น 50 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 28,150 ขายออกบาทละ 28,250 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 27,636.68 ขายออกบาทละ 28,750 บาท ราคาทองคำขึ้น 50 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 1 พ.ย.
เงินบาทแข็งค่าขึ้น :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (2 พ.ย.) แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับวันที่ 1 พ.ย.โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 33.410 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 33.4685 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ, 45.9175 บาทต่อ 1 ปอนด์, 39.0056 บาทต่อ 1 ยูโร, 29.6189 บาท ต่อ 100 เยน, 4.3230 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.0114 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 8.1353 บาท ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
บิ๊กตู่ กระทบไหล่ ไบเดน :
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พบปะพูดคุยพร้อมทั้งเชิญประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระหว่างงานเลี้ยงรับรองผู้นำ World Leaders Summit ในการประชุม COP 26 ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้เชิญชวนผู้นำต่างประเทศเดินทางมาประเทศไทย เพื่อร่วมประชุมผู้นำเอเปกในปีหน้าด้วย “วันนี้เราก็ถือว่าเราอาวุโสพอสมควรนะ เพราะรู้จักคนเยอะขึ้น การเดินทางนี้ถึงถือว่าคุ้มค่าและทุกคนก็ทุ่มเทเต็มที่”
ลดดอกเบี้ยหนี้ครู :
กระทรวงศึกษาธิการ เผยแนวทางการปัญหาหนี้ครู เช่น การลดดอกเบี้ยเงินฝาก และดอกเบี้ยเงินกู้ หากทำการลดดอกเบี้ยแล้วจะช่วยแบ่งเบาภาระของครูได้อย่างไรบ้าง หรือนำเงินในอนาคตของครู เช่น เงินค่าหุ้นที่อยู่ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เงินบำเหน็จตกทอด และเงินสะสมกองทุนบำเหน็จข้าราชการ (กบข.) เป็นต้น มานำเงินส่วนนี้มาลดยอดหนี้ได้หรือไม่ เพื่อทำให้ครูผ่อนชำระได้คล่องตัวมากขึ้นแทนที่จะมานั่งจ่ายเงินกู้จำนวนมาก และการตัดเงินเดือน จะต้องปรับเกณฑ์อย่างไรเพื่อไม่ให้ครูได้รับความเดือดร้อน เช่น อาจจะตัดเฉพาะยอดหนี้ของครู แต่ไม่ตัดยอดในส่วนอื่นๆ เป็นต้น
พี่ติ๊ก โวย fake news :
“ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” ได้ทวีตภาพพร้อมข้อความกรณีที่มีชื่อเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง โดย ระบุว่า “ผมไม่ได้มีส่วนในเรื่องของพรรคการเมืองนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด และไม่ได้เล่นการเมือง เอกสารฉบับนี้เป็น fake news นะครับ”
ฟ้อง 4 ข้อหา ผกก.โจ้ :
ตำรวจ ฟ้องผู้กำกับโจ้ – พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล 4 ข้อหา 1.ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , 2.ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, 3.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย, 4.ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
เตือน อย่ารีบกระดกเหล้า :
นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า กรณีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากรีบดื่มรวดเดียวจะอันตรายมาก เป็นการดื่มแบบบินจ์ (Binge drinking) ดื่มพรวดๆ ซึ่งอันตรายถึงเสียชีวิตได้ ดังนั้น ควรจะดื่มแบบจิบไปทีละน้อย เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสารพิษอย่างหนึ่ง ปกติเข้าสู่ร่างกายก็จะถูกขับออกอย่างรวดเร็ว ทางเหงื่อ ลมหายใจ ปัสสาวะ หากเข้าไปในปริมาณที่ขับออกทัน ร่างกายก็ยังอยู่ได้ แต่หากดื่มแล้วขับออกไม่ทัน ก็จะไปปิดการทำงานของสมอง ทำให้หยุดหายใจไปเลยได้