พายุ “ปาบึก”กระหน่ำไทย
พายุโซนร้อน ‘ ปาบึก’ โถมเข้าถล่มภาคใต้ของไทย ทำให้เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก คาดการณ์ว่าจะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี
โดยพายุซัดเข้าฝั่งในเวลา 12.45 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 4 ม.ค. ทำให้ต้นไม้หักโค่นล้มทับบ้านเรือนหลายสิบหลังใน จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ พายุยังเคลื่อนตัวทั่วภาคใต้ของไทย กระทบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมหลายแห่ง
มีนักท่องเที่ยวนับพันคนที่เดินทางออกจากเกาะสมุย เกาะเต่า และเกาะพงัน แต่หลายคนยังอยากเห็นพายุบนเกาะ
มีการปิดสนามบินอย่างน้อย 2 แห่งในพื้นที่ใกล้เคียงและงดให้บริการเรือเฟอร์รีข้ามฟาก โดยนักท่องเที่ยวที่ตกค้างบนเกาะสมุยกล่าวกับสื่อว่า ที่เกาะมีฝนตกหนัก ลมแรง คลื่นแรง และมีการตัดไฟฟ้า
มีประกาศเตือนให้ประชาชนอยู่ในอาคารหลังเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นจนถึงเช้าวันที่ 5 ม.ค.เพื่อความปลอดภัย “ ผมได้พูดคุยกับชาวต่างชาติเมื่อคืน และพวกเขาไม่กลัวเลย พวกเขาเข้าใจสถานการณ์ดี ”
เกริกไกร สงธานี นายอำเภอบนพื้นที่เกาะพะงันกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP โดยเขาเสริมว่า ยังมีนักท่องเที่ยวอยู่บนเกาะประมาณ 10,000 คน
พายุโซนร้อนพัดผ่าน จ.นครศรีธรรมราช และมุ่งไปทางใต้ คาดการณ์ว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นเมื่อผ่าน จ.สุราษฏร์ธานี
“ แต่เกาะท่องเที่ยวในอ่าวไทย ทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จะได้รับผลกระทบจากพายุ เพราะปาบึกมีกำลังแรงมาก ” ภูเวียง ประคำมินทร์ ผอ.สำนักอุตุนิยมวิทยากล่าว
มีรายงานว่า ชาวประมงเสียชีวิตหนึ่งรายเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ม.ค.ใน จ.ปัตตานีใกล้กับพรมแดนมาเลเซีย เนื่องจากคลื่นสูงล่มเรือเขา
กระทรวงต่างประเทศของสหราชอาณาจักรแนะนำให้พลเมืองของตนหลีกเลี่ยงสถานการณ์คับขัน และให้เดินทางไปจังหวัดที่อยู่ใกล้พรมแดนไทย – มาเลเซีย
ขณะที่ Daniel Moroz จากอังกฤษ ระบุว่า สถานการณ์บนเกาะพะงัน “ สงบดี ”
“ แค่มีฝนตกในช่วงนี้ แต่มีคนแจ้งผมว่าอาจจะมีสถานการณ์เลวร้าย ผมมั่นใจว่าสถานที่พักของผมปลอดภัย และคิดว่าพรุ่งนี้ช่วงบ่าย ทุกอย่างคงเคลียร์หมดแล้ว” เขากล่าว
พายุในอ่าวไทยในช่วงเวลานี้ของปีเป็นเรื่องปกติ แต่คาดว่าพายุปาบึกจะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ที่โถมเข้ากระหน่ำประเทศไทยในช่วงพีคของฤดูท่องเที่ยว
กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยระบุว่า พายุปาบึกจะส่งผลกระทบกับภาคใต้ของไทยไปอีก 2 – 3 วัน และจะมี “ ฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีความเป็นไปได้ที่จะยิ่งมีฝนตกหนักในพื้นที่ ”
โดยทางการเตือนว่า “ ประชาชนควรระวังตัวกับสถานการณ์ที่ร้ายแรง ซึ่งทำให้มีน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ”
ที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ประชาชนนับพันคนอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่โรงยิมของมหาวิทยาลัย หลังจากรัฐบาลประกาศเตือนว่าบ้านเรือนของพวกเขาเสี่ยงที่จะถูกพายุซัดทำลาย
ในอำเภอขนอมที่อยู่ใกล้เคียง นักธุรกิจคนหนึ่งกล่าวกับสื่อ BBC ว่า โรงแรมของเขามีห้องพัก 1,000 ห้องและต้องปิดทำการชั่วคราว แต่เขามองในแง่ดีว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาเที่ยวอีก หลังจากพายุสงบแล้ว
ทั้งนี้ พายุลูกใหญ่ล่าสุดที่เคยกระหน่ำประเทศไทยคือ พายุไต้ฝุ่น “เกย์” ที่เกิดขึ้นในปี 2532 และคร่าชีวิตประชาชนหลายร้อยคน.