Skip to content
Sun. Sep 21st, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • HOT NEWS
  • NATIONAL

“CIMBT”มองเศรษฐกิจไทยปีหน้ายังสดใส

26/10/2021 1 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 947

เศรษฐกิจใครทรุดแรงหากเงินเฟ้อพุ่ง

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า จากกระแสความกังวลถึงความเสี่ยงสำคัญปี 2565 ว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่สภาวะ Stagflation หรือ เศรษฐกิจชะลอตัวแรง ที่มักตามมาด้วยปัญหาคนว่างงาน พร้อมกับเผชิญปัญหาเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เรามองว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นจากความต้องการน้ำมันเร่งตัวเร็ว สวนทางกับกำลังการผลิตน้ำมันเติบโตช้า ความต้องการน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นตามความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ที่ฟื้นตัวรวดเร็วจากมาตรการกระตุ้นการเงินและการคลังมหาศาล แต่กำลังการผลิตน้ำมันวิ่งตามไม่ทัน เพราะธุรกิจสำรวจและขุดเจาะน้ำมันหลายแห่งล้มเลิกกิจการไปช่วงที่ราคาน้ำมันลดลงต่ำในปีก่อน แม้ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้น แต่การลงทุนยังต่ำ ขณะที่กลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตอีก 4 แสนบาร์เรลต่อวันก็ยังตามไม่ทันอุปสงค์น้ำมันที่โตเร็วกว่า  คาดว่าสถานการณ์จะลากยาวถึงไตรมาสแรกปีหน้า หลังจากนั้น ราคาน้ำมันจะเริ่มลดลงและกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง กรณีฐานเช่นนี้ อัตราเงินเฟ้อของไทยในไตรมาสสี่ปี 2564 น่าจะอยู่ที่ราว 1.5% จากปีก่อน และน่าจะขยับขึ้นไปที่เฉลี่ยราว 1.7% ในปี 2565 ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยที่ 83 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาสสี่ปีนี้ และ 66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปีหน้า

อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่า 2% ในไตรมาสสามปี 2565 จากฐานที่ต่ำปี 2564 แต่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นชั่วคราวตามราคาน้ำมัน ไม่น่าเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสสี่ปี 2564 น่าจะฟื้นตัวจากไตรมาสสามได้ราว 1.4% (QoQ) แม้จะหดตัวเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนราว 0.9% (YoY) จากการบริโภคที่อ่อนแอ คนขาดกำลังซื้อ นักลงทุนและผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่ยังสูงแม้จะเปิดเมืองแล้วก็ตาม เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่มาก เราคงหวังมาตรการทางการคลังในการกระตุ้นการบริโภคและประคองค่าครองชีพของประชาชนที่มีรายได้น้อย เพื่อบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่เงินเฟ้อขยับขึ้น แต่ในภาวะเช่นนี้ เศรษฐกิจไทยยังห่างไกลจากภาวะ stagflation โดยเรายังมองว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวได้ราว 3.2% ในปีหน้า ยกเว้นมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมที่ทำเงินเฟ้อเร่งขึ้น เราจะมาประเมินว่า ผลกระทบต่อภาคส่วนเศรษฐกิจต่างๆ จะมีมากน้อยเพียงไร และประเทศไทยจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเช่นไรเทียบกับประเทศอื่น

คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจไทย

ที่มา – สภาพัฒน์ และ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

ปัจจัยเสี่ยงเงินเฟ้อ

ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจในปีหน้าคือภาวะเงินเฟ้อ แต่เงินเฟ้อไม่เพียงแต่มาจากราคาน้ำมันเท่านั้น เราประเมินความเป็นไปได้ของเงินเฟ้อมาจาก 4 ปัจจัยดังนี้

1. ราคาน้ำมัน – ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ สูงขึ้นตาม จนทำให้สินค้าที่เป็นต้นทุนการผลิตหรือค่าใช้จ่ายต่างๆ สูงขึ้น

2. อุปทานชะงักงัน – ปัญหาด้านอุปทานหรือสิ่งที่ทำให้ภาคการผลิตชะลอ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่จีนขาดแคลนวัตถุดิบ ขาดแคลนพลังงาน จนผลิตสินค้าได้ลดลงและต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เกิดปัญหาอุปสงค์ส่วนเกินจนดันราคาสินค้าให้สูงขึ้น หรือแม้แต่ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ หรือขาดชิป semi-conductor ที่นำไปสู่การขาดวัตถุดิบสำคัญและกระทบการส่งออก

3. ต้นทุนกู้ยืมที่สูงขึ้น – จากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ธนาคารกลางประเทศพัฒนาแล้วเริ่มส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือเตรียมถอนมาตรการ QE ซึ่งมีผลทำให้นักลงทุนเทขายพันธบัตรรัฐบาล เมื่อมีความต้องการลดลง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรขยับสูงขึ้น เอกชนต้องระดมทุนผ่านตลาดหุ้นกู้ โดยต้องให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามพันธบัตรรัฐบาลไปด้วย เมื่อเอกชนแบกรับต้นทุนการเงินสูงขึ้น ต้นทุนจะถูกผลักไปให้ผู้บริโภคผ่านราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้น

4. เงินบาทอ่อนค่า – นักลงทุนกังวลต่อต้นทุนการเงินที่สูงขึ้นในฝั่งของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเกิดใหม่รวมทั้งตลาดทุนไทยไปถือสินทรัพย์ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐแทน ซึ่งเงินบาทที่อ่อนค่าทำให้ต้นทุนการนำเข้าทุกอย่างขยับขึ้น

ที่มาของเงินเฟ้อในปี 2565

ที่มา – สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และการอ่อนค่าของเงินบาท มีทั้งกลุ่มธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบเชิงลบและกลุ่มที่ได้ประโยชน์ โดยเราประเมินกลุ่มธุรกิจ/อุตสาหกรรมแยกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

– กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบรุนแรง ได้แก่ ธุรกิจการขนส่ง ธุรกิจประมง ธุรกิจก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ท่องเที่ยว กลุ่มโรงแรม และร้านอาหาร รวมถึงคนขับรถบรรทุก และชาวประมง กลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบรุนแรงจากต้นทุนการขนส่ง เดินทาง และต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น

– กลุ่มธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบระดับปานกลาง ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก ค้าส่ง กลุ่มบรรจุภัณฑ์กระดาษ จำหน่ายรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ปั๊มน้ำมัน ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ และกลุ่มสื่อโฆษณาและบันเทิง (มีเดีย) กลุ่มพวกนี้ มีต้นทุน (รวมถึงดอกเบี้ย) และราคาสินค้าที่จะขยับขึ้น รายได้ลดลงตามการอ่อนแอของกำลังซื้อในประเทศ รวมถึงกลุ่มที่มีรายได้ประจำ ทั้งพนักงานบริษัทเอกชน และข้าราชการ จะถูกกระทบจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย

– กลุ่มที่ได้ประโยชน์ระดับปานกลาง ได้แก่ กลุ่มพลังงานทดแทน พลังงานทางเลือก ปาล์มน้ำมัน สินค้าเกษตร ผู้ส่งออก กลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เกษตรแปรรูป ชิ้นส่วนยานยนต์ ตามเงินบาทที่อ่อนค่าช่วยสนับสนุนความสามารถในการแข่งขัน ความต้องการของสินค้ายังมีอยู่ รวมถึงการจ้างงานในกลุ่มนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย

– กลุ่มที่ได้ประโยชน์สูง ได้แก่ กลุ่มสำรวจและขุดเจาะน้ำมัน กลุ่มยางพารา กลุ่มถ่านหิน กลุ่มธนาคาร ธุรกิจการเงิน ประกันภัย พวกนี้ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ในอนาคต และรายได้เติบโตตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

กลุ่มธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ/ประโยชน์จากเงินเฟ้อ

ที่มา – สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

แนวโน้มเงินเฟ้อไทยหากราคาน้ำมันพุ่ง

เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญปัญหาราคาน้ำมันพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับความเสี่ยงอื่นๆ ที่นำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ ถ้าราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนภาคการผลิตส่วนใหญ่เร่งขึ้นแล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่อัตราเงินเฟ้อของไทยจะขยับขึ้นเร็วกว่าที่คาด แม้ปัจจัยด้านราคาพลังงานและปัญหาเชิงโครงสร้างด้านอุปทานอื่นๆจะกระทบราคาสินค้าชั่วคราวในปี 2565 โดยราคาน้ำมันน่าจะอยู่ในระดับสูงสุดช่วงไตรมาสสี่ปีนี้ และปรับตัวลดลงตามอุปทานที่เพิ่มขึ้น แต่ราคาน้ำมันอาจลดลงช้ากว่าที่คาดไว้ในกรณีฐานในปีหน้า ซึ่งปัญหาด้านเงินเฟ้ออาจรุนแรงและกระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ ทั้งนี้ หากสมมติฐานราคาน้ำมันดิบเบรนท์ไตรมาสสี่ปีนี้ที่น่าจะเฉลี่ยที่ 83 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลพุ่งขึ้นไปสู่ระดับ 88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และในปีหน้าจากเฉลี่ยที่ 66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลพุ่งขึ้นไปสู่ระดับ 78 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว อัตราเงินเฟ้อของไทยน่าจะเร่งตัวมากกว่าที่คาดไว้ โดยในสมมติฐานปัจจุบัน เรามองว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาสสี่ปี 2564 อาจเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยที่ 1.5% ไปที่ 2.3% และอัตราเงินเฟ้อปี 2565 อาจเพิ่มจาก 1.7% เป็น 4.1% ได้ (หรือเพิ่มขึ้น 2.4% จากกรณีฐาน) อย่างไรก็ดี ในกรณีเช่นนี้ อัตราเงินเฟ้อในปีหน้าที่พุ่งได้ถึง 5% ในช่วงไตรมาสสามอาจเป็นระดับสูงสุดก่อนปรับตัวลดลงในช่วงเวลาต่อมา

อัตราเงินเฟ้อของไทยเทียบกรณีฐานกับกรณีเงินเฟ้อสูง

ที่มา – Oxford Economics Model และสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

ผลกระทบราคาน้ำมันต่อเงินเฟ้อ

คำถามน่าสนใจคือ อัตราเงินเฟ้อของไทยที่อาจจะเร่งขึ้นได้ 2.4% จากกรณีฐานเช่นนี้ นับว่ารุนแรงมากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น เราศึกษาแบบจำลองจาก Oxford Economics Model โดยศึกษาประเทศในเอเชียและประเทศสำคัญๆ พบว่า ประเทศที่มีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อปีหน้าจะพุ่งได้เร็วมากที่สุดคือ มาเลเซีย รองลงมาคือ อินเดีย ส่วนประเทศไทยอยู่ในกลุ่มที่อัตราเงินเฟ้อมีโอกาสพุ่งสูง โดยประเทศเหล่านี้มีการใช้พลังงานเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เงินทุนไหลออกเร็วตามความผันผวนที่สูงของเศรษฐกิจโลก อีกทั้งค่าเงินมีโอกาสอ่อนค่าได้เร็ว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในประเทศพัฒนาแล้วไม่น่าจะเร่งขึ้นมากแม้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น เพราะพึ่งพาพลังงานทางเลือกสูง ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องอาศัยการใช้พลังงานมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประกอบกับค่าเงินไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากจนสินค้านำเข้ามีราคาแพงขึ้นเร็ว โดยในกลุ่มที่ศึกษาจะพบประเทศญี่ปุ่นมีอัตราเงินเฟ้อเร่งขึ้นจากกรณีฐานเพียง 0.6% ตามมาด้วย จีน อังกฤษ และสหรัฐฯ

การเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในปี 2565 เทียบกรณีเงินเฟ้อสูงกับกรณีฐาน

ที่มา – Oxford Economics Model และสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาเงินเฟ้อ

จากปัญหาราคาน้ำมันสูงขึ้น และอุปทานหยุดชะงักในภาคการผลิต เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเติบโตช้าลงจากกรณีฐาน เช่น กรณีประเทศไทยที่คาดว่าปี 2565 จะเติบโตได้ 3.2% ก็อาจเติบโตได้เพียง 2.0% หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น -1.2% เป็นต้น โดยเศรษฐกิจที่ชะลอจากกรณีฐานมีปัจจัยมาจากการนำเข้าที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันและวัตถุดิบอื่นๆ ส่งผลให้มีรายจ่ายไหลออกนอกประเทศมากขึ้น ขณะที่กำลังซื้อในตลาดโลกก็ชะลอตัวเช่นกัน ส่งผลให้การส่งออกลดลง รายได้แรงงานนอกภาคเกษตรปรับตัวลง การบริโภคลดลงตามรายได้จากแรงงาน และจากราคาสินค้าที่สูงขึ้นทำให้ความสามารถในการใช้จ่ายลดลง อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมีผลต่อภาคตลาดการเงินผ่านต้นทุนการกู้ยืมของเอกชนผ่านตลาดตราสารหนี้ที่สูงขึ้น โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจแรงได้แก่ เกาหลีใต้ สหรัฐฯ อินเดีย และอินโดนีเซีย ขณะที่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยกว่ากลุ่มอื่น ได้แก่ กลุ่มโอเปก เวียดนาม ฝรั่งเศส จีน และสิงคโปร์

การเปลี่ยนแปลงของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2565 เทียบกรณีเงินเฟ้อสูงกับกรณีฐาน

ที่มา – Oxford Economics Model และสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

ธนาคารกลางประเทศใดกลัวเงินเฟ้อที่สุด

หน้าที่สำคัญของธนาคารกลางคือการรักษาเสถียรภาพด้านราคา หรือพยายามใช้นโยบายการเงินเพื่อให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายหรือระดับที่เหมาะสม เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทยมีกรอบเงินเฟ้อทั่วไปที่ 1-3% ขณะที่บางประเทศจะถือระดับอัตราเงินเฟ้อที่ 2% เป็นระดับเป้าหมาย ซึ่งในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อเร่งขึ้นเร็วจนเศรษฐกิจเริ่มมีปัญหาด้านเสถียรภาพของราคา โดยมากแล้ว ธนาคารกลางจะใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น การเติบโตของสินเชื่อจะลดลง เพราะผู้ลงทุนและผู้บริโภคจะชะลอกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นการลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ แต่โดยมาก มาตรการทางการเงินจะใช้ได้ผลดีเมื่อปัญหาเงินเฟ้อมาจากด้านอุปสงค์เป็นหลัก เพราะการขึ้นดอกเบี้ยจะช่วยลดความต้องการสินค้า การก่อสร้าง และการลงทุนได้ แต่หากมาจากด้านอุปทานเช่นนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจต้องทำมากขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ เช่น ในกรณีฐาน เรามองว่าธปท.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปีในปี 2565 แต่เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ธปท.อาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ไปสู่ระดับ 2.25% ในปลายปีหน้า โดยประเทศที่ธนาคารกลางกังวลต่อปัญหาเงินเฟ้อจนต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยสกัดมากที่สุดในกลุ่มคือ มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ตามลำดับ และเป็นที่น่าสนใจว่า ประเทศพัฒนาแล้วที่เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในปีนี้และพร้อมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายก่อนชาติอื่น เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ ยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีน กลับแทบไม่ต้องมีการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่วางแผนเอาไว้

การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2565 เทียบกรณีเงินเฟ้อสูงกับกรณีฐาน

ที่มา – Oxford Economics Model และวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย

สรุป เงินเฟ้อไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ให้ระวังมาตรการตั้งรับเงินเฟ้อ

แม้นักลงทุนกำลังกังวลปัญหาเงินเฟ้อ เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวแรงตามราคาน้ำมัน และอุปทานชะงักงันในหลายภาคการผลิต แต่เราเชื่อว่า ปัญหาราคาน้ำมันและปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจอื่นๆจะคลี่คลายในไตรมาสแรกปีหน้า เศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวช่วงสั้น และยังไม่จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินเข้มงวดด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี เพื่อเตรียมพร้อมหากปัญหาราคาน้ำมันและด้านอุปทานอื่นยืดเยื้อยาวนานกว่าคาด เงินเฟ้อที่เร่งขึ้นแรงปีหน้ามีผลลบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในแทบทุกประเทศ และอาจดึง GDP ของไทยให้ขยายตัวต่ำกว่าคาดได้ราว 1.2% สู่ระดับ 2.0% แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังเป็นบวกก็นับว่าปัญหาด้านเงินเฟ้อไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤติ และน่าจะเป็นภาวะชั่วคราว ในทางปฏิบัติ เศรษฐกิจไทยอาจไม่ชะลอตัวอย่างในแบบจำลองก็ได้หากภาครัฐมีมาตรการรับมือที่เหมาะสม เช่น การไม่จำเป็นต้องเร่งขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่มาจากด้านอุปทาน เพราะจะยิ่งทำให้การฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนของเอกชนทรุดตัวลงไปอีก อาจเสริมสภาพคล่องธุรกิจขนาดเล็กที่ขาดรายได้ให้สามารถรักษาระดับการจ้างงานและมีเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจให้อยู่ได้ในปีหน้า นอกจากนี้ นโยบายการคลังยังจำเป็นในการดูแลผู้มีรายได้น้อยด้วยมาตรการเงินโอนและลดค่าครองชีพ โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าและค่าขนส่งมวลชน แต่ไม่ควรบิดเบือนกลไกตลาดด้วยการลดราคาน้ำมันเพราะจะเป็นภาระทางการคลังที่มากและจะไม่สนับสนุนนโยบายการประหยัดพลังงานในระยะยาว ดังนั้น เราอยากสรุปว่า เงินเฟ้อไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ให้ระวังมาตรการที่มารับมือกับเงินเฟ้อ เช่นการรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเศรษฐกิจชะลอ หรือการลังเลที่จะใช้นโยบายการคลังในการดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวในปีหน้าได้

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: CIMBT

Continue Reading

Previous: “มาโกะ โคมูโระ” เจ้าหญิงสละฐานันดร
Next: อีอีซี แก้ปม แอร์พอร์ต เรลลิงก์ เป็นธรรมทั้งรัฐและเอกชน

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 ก.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 ก.ย. 68

21/09/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 21 กันยายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 21 กันยายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 21 กันยายน 2568

21/09/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ.2568

21/09/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 ก.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 ก.ย. 68

20/09/2025
ส.กทอ. ยื่นขอทุนอนุรักษ์ฯ ทะลุ 1,070 โครงการ วงเงินกว่า 1.34 หมื่นล้าน ส.กทอ. ยื่นขอทุนอนุรักษ์ฯ ทะลุ 1,070 โครงการ วงเงินกว่า 1.34 หมื่นล้านบาท 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

ส.กทอ. ยื่นขอทุนอนุรักษ์ฯ ทะลุ 1,070 โครงการ วงเงินกว่า 1.34 หมื่นล้านบาท

20/09/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 20 กันยายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 20 กันยายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 20 กันยายน 2568

20/09/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2568

20/09/2025
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังซึมต่อเนื่อง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังซึมต่อเนื่อง 2 min read
  • SPECIAL REPORT
  • HOT NEWS

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังซึมต่อเนื่อง

19/09/2025
สทนช.ยันระบายน้ำเหนือต่อเนื่องป้องกันน้ำท่วม สทนช.ยันระบายน้ำเหนือต่อเนื่องป้องกันน้ำท่วม 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สทนช.ยันระบายน้ำเหนือต่อเนื่องป้องกันน้ำท่วม

19/09/2025
ttb analytics คาดต้นทุนขนส่งต่อจีดีพีไทยปี 2568 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ttb analytics คาดต้นทุนขนส่งต่อจีดีพีไทยปี 2568 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน 1 min read
  • SPECIAL REPORT
  • HOT NEWS

ttb analytics คาดต้นทุนขนส่งต่อจีดีพีไทยปี 2568 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

19/09/2025
IMG_20250907131310000000 โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน” 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน”

19/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์ 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

19/09/2025

China News

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน

14/05/2025
LINEแชร์เลย! สถาบันการเงินรายใหญ่ได้พากันปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของจีนในปีนี้ หลังจากจีนและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 พ.ค.)... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

19/09/2025
กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่ กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่

18/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

18/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์

17/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

16/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่

กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

Energy Force

“ไซยะบุรี พาวเวอร์” รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว "ไซยะบุรี พาวเวอร์" รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

“ไซยะบุรี พาวเวอร์” รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว

11/09/2025
LINEแชร์เลย! บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) บริษัทร่วมในเครือของ บริษัท ซีเค... อ่านต่อ

Politics

IMG_20250907131310000000 โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน” 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน”

19/09/2025
548313824_814042087644454_7977143485878694664_n กองทัพภาคที่ 1 ประกาศ ยกระดับจัดการกัมพูชาละเมิดเขตแดน 1 min read
  • HOT NEWS
  • POLITICS

กองทัพภาคที่ 1 ประกาศ ยกระดับจัดการกัมพูชาละเมิดเขตแดน

18/09/2025
550196835_1414206843816415_6147802706000758168_n “สระแก้ว” ระดมตำรวจชุด คฝ. 3 จังหวัด คุมชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

“สระแก้ว” ระดมตำรวจชุด คฝ. 3 จังหวัด คุมชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว

18/09/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเลเซีย รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

SME D Bank เสริมคึกคัก ในงาน ‘SME D Market’ 25-26 ก.ย. นี้ SME D Bank เสริมคึกคัก ในงาน ‘SME D Market’ 25-26 ก.ย.นี้ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

SME D Bank เสริมคึกคัก ในงาน ‘SME D Market’ 25-26 ก.ย.นี้

20/09/2025
เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 2 แสนบาท เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 2 แสนบาท 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 2 แสนบาท

19/09/2025
บัญชีกลางโอนซ้ำ 3 รอบ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุรายได้น้อย ไม่สำเร็จโทร Call Center บัญชีกลางโอนซ้ำ 3 รอบ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุรายได้น้อย ไม่สำเร็จโทร Call Center 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

บัญชีกลางโอนซ้ำ 3 รอบ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุรายได้น้อย ไม่สำเร็จโทร Call Center

19/09/2025
ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ  ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ  1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ 

18/09/2025

Recommend

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ

16/08/2025
"จุลพันธ์" มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  “จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง 

13/08/2025
ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง

11/08/2025
"ทรัมป์" ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา “ทรัมป์” ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“ทรัมป์” ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา

29/07/2025

Photo Stories

กรรมการผู้จัดการ ธอส. คว้ารางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025  กรรมการผู้จัดการ ธอส. คว้ารางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025  1 min read
  • PHOTO STORIES

กรรมการผู้จัดการ ธอส. คว้ารางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025 

20/09/2025
กสิกรไทย - DKSH - วีซ่า ผนึกกำลังยกระดับโซลูชันรับชำระเงินครบวงจร กสิกรไทย – DKSH – วีซ่า ผนึกกำลังยกระดับโซลูชันรับชำระเงินครบวงจร 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย – DKSH – วีซ่า ผนึกกำลังยกระดับโซลูชันรับชำระเงินครบวงจร

19/09/2025
บางปะอิน โคเจนฯ รับประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์ บางปะอิน โคเจนฯ รับประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์ 1 min read
  • PHOTO STORIES

บางปะอิน โคเจนฯ รับประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์

19/09/2025
EXIM BANK ต้อนรับองค์กรการพัฒนาการส่งออกแคนาดา EXIM BANK ต้อนรับองค์กรการพัฒนาการส่งออกแคนาดา 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK ต้อนรับองค์กรการพัฒนาการส่งออกแคนาดา

18/09/2025
SCB Academy เปิดตัว “AFAST Smart University” SCB Academy เปิดตัว “AFAST Smart University” 1 min read
  • PHOTO STORIES

SCB Academy เปิดตัว “AFAST Smart University”

18/09/2025
สรรพากรเข้าร่วมการประชุม SGATAR ครั้งที่ 54 ณ เมืองบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย สรรพากรเข้าร่วมการประชุม SGATAR ครั้งที่ 54 ณ เมืองบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย 1 min read
  • PHOTO STORIES

สรรพากรเข้าร่วมการประชุม SGATAR ครั้งที่ 54 ณ เมืองบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย

18/09/2025
การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568 การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568

17/09/2025
กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68 กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68

16/09/2025
SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช 1 min read
  • PHOTO STORIES

SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช

15/09/2025
คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award” คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award” 1 min read
  • PHOTO STORIES

คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award”

15/09/2025
ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย

15/09/2025
กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568

14/09/2025
ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568 ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568

13/09/2025
คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม” คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม” 1 min read
  • PHOTO STORIES

คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม”

12/09/2025
กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น

12/09/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM