รูปแบบ “บ้านฉาง สมาร์ทซิตี้” ยังไม่ชัด
หลังจากลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ต.ตะพง จ.ระยองจำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการเชื่อมโยงเศรษฐกิจพัฒนาวิถีชุมชน EEC อย่างยั่งยืน ,โครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3,โครงการท่าเรือพาณิชย์จุกเสม็ด และ โครงการเมืองอัจฉริยะ “บ้านฉาง” ต้นแบบสมาร์ทซิตี้รองรับ EEC
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า การที่รัฐบาลได้กำหนดให้เขตภาคตะวันออกเป็นเขตพัฒนาพิเศษ เพราะมีความพร้อมและสามารถเริ่มทำได้อย่างเป็นรูปธรรม จึงต้องการให้โครงการ EEC สร้างรากฐานความเจริญใหม่ให้กับ 3 จังหวัด เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนา EEC ซึ่งศักยภาพของจังหวัดระยองมีศักยภาพที่ดีอยู่แล้วในการเป็นเมืองผลไม้ และเป็นเมืองท่องเที่ยว มีหาดทรายที่สวยงาม สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ส่วนของโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาสนามบิน อู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ล้วนแต่จะเป็นการส่งเสริมถึงแผนพัฒนาชาติตามยุทธศาสตร์ไทยแลน์ 4.0 มีการสร้างฐาน EEC ใหม่ ฐานแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจ การเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว สามารถยกระดับ เพื่อการพัฒนาได้ เช่น การทาให้ผลผลิตมากขึ้น สามารถนาอุตสาหกรรมเข้าสู่การแข่งขันในเวทีโลก พร้อมที่จะสร้างโอกาสใหม่ให้กับชุมชนและประเทศ ตอกย้าในเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่จะต้องรักษา ไม่ทาลาย โรงงานต้องอยู่กับชุมชน ให้ได้ตามนโยบายที่ ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ไว้ว่า โครงการ EEC ต้องตอบประชาชนได้อย่างชัดเจนว่า ประชาชนได้อะไร และไม่ทิ้งคนไทย ไว้ข้างหลัง
สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3 นั้น เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ โดยได้ย้ำให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ EEC ต้องดูแลชุมชน และประชาชนอย่างใกล้ชิด ส่วนโครงการการพัฒนาท่าเรือพาณิชย์จุกเสม็ด เป็นการรองรับการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในพื้นที่ EEC ทั้งด้าน เรือพาณิชย์ และรองรับเรือเฟอร์รี่ ซึ่งได้มีการนาเสนอแผนงานความคืบหน้าของโครงการ
นอกจากนี้ ยังได้มีการรับฟังปัญหาต่างๆ จากชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ปัญหาปากท้อง กรรมสิทธิ์ที่ดิน รวมถึงการจัดตั้งโครงการบ้านฉาง สมาร์ทซิตี้ ว่าจะต้องอยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกจะต้องมีการตกลงกันว่าจะให้เป็นสมาร์ท ซิตี้แบบไหน ซึ่งอยู่กระบวนการการศึกษาและวิเคราะห์ต่อไป.