สรุปข่าวประจำ วันที่ 3 ตุลาคม 2564

หุ้นไทยสัปดาห์หน้า : บล.กสิกรไทย คาดดัชนีหุ้นไทยช่วง 4-8 ต.ค. มีแนวรับที่ 1,590 และ 1,580 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,610 และ 1,620 จุด ตามลำดับ ลดลงจากคาดการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิดทั้งในและต่างประเทศ สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศ การประชุมโอเปกพลัส (4 ต.ค.) ทิศทางเงินลงทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนสถานการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน และดัชนี PMI เดือนก.ย. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ข้อมูลดัชนี PMI เดือนก.ย.ของยูโรโซน ญี่ปุ่นและจีน ตลอดจนดัชนีราคาผู้ผลิตและยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ของยูโรโซน
บาทแข็งเล็กน้อย : แบงก์กสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาท ช่วงสัปดาห์หน้า (4 -8 ต.ค.)โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.20-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามเช่นเดียวกับปัจจัยหุ้นด้านบน สำหรับค่าเงินบาทเมื่อวันสุดท้ายของสัปดาห์ (1 ต.ค.) ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.63 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทองขยับขึ้น : ราคาขายทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ที่ปิดตลาดช่วงเช้า 3 ต.ค.ของไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (+0.23%) ปิดที่ 1,760.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นราว 10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของสัปดาห์ก่อน ขณะที่ ราคาทองไทยในไทย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำเมื่อ 2 ต.ค. เพียงครั้งเดียว เพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันก่อน 50 บาท กำหนดราคาซื้อทองคำแท่ง บาทละ 27,900 บาท ขาย 28,000 บาท ขณะที่ราคาซื้อทองคำรูปพรรณ 27,394.12 บาท และขาย 28,500 บาท
น้ำมันดิบขาขึ้น : ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้ายังอยู่ขยับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน พ.ย. เมื่อช่วงเช้านี้ ปิดตลาด +0.69 ดอลลาร์/บาร์เรล (+0.92%) ปิดที่ 75.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาซื้อข่ายล่วงหน้าของน้ำมันเบรนท์ ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดตลาด +0.82 ดอลลาร์/บาร์เรล (+1.05%) ก็ปิดที่ 79.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้ง 2 ชนิดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของสัปดาห์ก่อน เนื่องจากปริมาณความต้องการของหลายประเทศเพิ่มขึ้น ตามการผ่อนคลายความเข้มงวดด้านนโยบายต่อโควิดฯ กระนั้น หลายฝ่ายเฝ้าจับตาดูท่าทีของโอเปคว่าจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อลดความกังวลด้านซัพพลายด์หรือไม่ ส่วนแนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จในรูปในไทยน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดโลก
นายกฯห่วงน้ำท่วม : น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ได้นิ่งนอนใจในสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด โดยกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งคลี่คลายสถานการณ์โดยเร่งด่วน รวมถึงสั่งการให้ทุกเหล่าทัพสนับสนุนเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งกำลังพลในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้ครอบคลุมและทั่วถึง
ทอ.เด้งรับช่วยน้ำท่วม : พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทหารอากาศ สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยโรงเรียนการบินและกองบินทั่วประเทศ เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ของไทย โดยให้ทุกหน่วยสามารถนำกำลังพล เครื่องมือ ยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์สื่อสาร และยานพาหนะ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและต่อเนื่อง โดยไม่ต้องรอการสั่งการจากส่วนกลาง และประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
ยังไม่ปรับ ครม. : พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ หน.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวสยบกระแสข่าว เตรียมปรับ ครม. ระบุ ขณะนี้ยังไม่มีการปรับครม.และไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งอะไรในพรรค ตอนนี้ยังไม่ทำอะไรทั้งนั้น เพราะรัฐบาลยังต้องใช้เวลาแก้ปัญหาประเทศก่อน โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ และนายกฯยังไม่มีมาปรึกษาเรื่องปรับครม. ตอนนี้ยังไม่มีการปรับ ครม.
ปีหน้ารุกคดีไซเบอร์ : พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงนโยบายในปี 65 จะเน้นย้ำการทำคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางไซเบอร์ หรือโซเชียลมีเดีย หลังพลตัวเลขการดำเนินคดีในส่วนนี้มากกว่า 1 ล้านคดี และยังพบตัวเลขการทำผิดโซเชียลอีกจำนวนหลักพันคดี โดยยอมรับว่า การทำงานทางโซเชียลมีความยากลำบาก คือ การพิสูจน์ตัวตนผู้กระทำความผิด ยืนยันจะใช้มาตรการเชิงรุกกวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์
อัพเกรดอาชีวะ : น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่า ได้ให้นโยบายปรับปรุงหลักสูตรอาชีวะ ตั้งแต่ ปวช.และปวส.ใหม่ เน้นการสร้างอาชีพใหม่ๆ รองรับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกของอาชีพและเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เรียนมีคุณภาพ มีสมรรถนะสูงสุดตรงตามที่สถานประกอบการ หรือ ตลาดแรงงานต้องการ ซึ่งการปรับปรุงนี้ควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จทันใช้ในปีการศึกษา 65 นี้