สรุปข่าวประจำวันที่ 13 กันยายน 2564
รับมือพายุโกนเซิน : พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประสานการทำงานกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) สนับสนุนการทำงานของ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ร่วมเฝ้าระวังและเตรียมแผนรองรับจากพายุ “โกนเซิน” พื้นที่เสี่ยงอุทกภัย กว่า 1,500 ตำบล ใน 58 จังหวัด ที่มีโอกาสพัฒนาเป็นลานีญา ซึ่งคาดการณ์ว่า ก.ย.- ต.ค.64 จะมีพายุ 2-3 ลูก เคลื่อนเข้าไทย
น้ำท่วมโคราช : สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนครราชสีมา เมื่อ12 ก.ย.64 ชาวบ้านใน ต.หนองบัวระคร อ.ด่านขุนทด กว่า 100 หลังคาเรือน เร่งขนข้าวของขึ้นที่สูง หลังมวลน้ำจากลำเชียงไกรตอนล่าง ไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ระดับน้ำท่วมสูงถึง 60 เซนติเมตร บางจุดท่วมสูงถึง 1 เมตร ถนนเข้า-ออกหมู่บ้าน ถูกตัดขาด ต้องใช้รถไถยกสูงและเรือท้องแบน ขนย้ายข้าวของและชาวบ้านเข้า-ออกอย่างทุลักทุเล
ม.6 ปล้นทอง : เกิดเหตุ คนร้ายบุกเดี่ยว จี้ชิงทองในร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ชั้น 1 ห้างบิ๊กซี ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ ก่อนพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำร้านทองสามารถรวบตัวคนร้ายรายนี้ไว้ได้ เป็นหญิงอายุเพียง 17 ปี ทราบชื่อภายหลัง คือ น.ส.นลินทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นนักเรียนเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนชื่อดังย่าน ดอนเมือง กทม.
ยังโคม่า : พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รอง โฆษก ตร. เผยอาการบาดเจ็บ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร หรือ “หมู่เบส” ที่ถูกปาระเบิดแบบไปป์บอมบ์ จากการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน การชุมนุมประท้วงของกลุ่ม “ทะลุแก๊ส” บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง แพทย์วินิจฉัยว่า มีเลือดออกในสมอง กระดูกเบ้าตาด้านขวาแตก มีแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้าและตาขวา ได้เข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ใช้เวลาผ่าตัดกว่า 8 ชั่วโมง ผู้ป่วยยังไม่สามารถหายใจเองได้ หลังผ่าตัดต้องได้รับการรักษาดูแลอย่างใกล้ชิดที่หอผู้ป่วยวิกฤติ
ไม่จริง : รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ “อ.อ๊อด” ไขข้อสงสัย กระแสข่าวฉีดวัคซีนโดยเฉพาะ”แอสต้าเซนเนก้า” จะสามารถนำเหรียญเข้าไปติดบริเวณที่ฉีดวัคซีนได้ เป็นเพราะเหงื่อที่ผิวหนัง กับ พื้นผิวสัมผัสของโลหะ เกาะติดกันเพราะแรงยึดเหนี่ยวระหว่างผิวทั้งสอง เป็นปรากฎการณ์ตามปกติเมื่อเนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการฉีดวัคซีนแล้วทำให้ผิวหนังเป็นแม่เหล็ก แต่อย่างใด
ตุ๋นซื้อขายอะไหล่รถ 27ล้าน : มีผู้เสียหายประมาณ 30 คน เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สมคิด บุญลอย ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีราชา เพื่อแจ้งความเอาผิด น.ส.สุพัตรา (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี หลังก่อเหตุหลอกให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายอะไหล่รถ ก่อนจะหลบหนีไป โดยเหยื่อสูญเสียเงินรวมทั้งสิ้น 27,000,000 บาท ผู้เสียหาย เล่าว่า เริ่มแรกให้ลงทุนในจำนวนเงินไม่มากได้รับผลตอบแทนในระยะแรกๆ เห็นว่า มีผลตอบแทนดี จึงเพิ่มเงินทุนเข้าไปเรื่อยๆ จากนั้น น.ส.สุพัตรา ได้แจ้งว่า ธุรกิจที่ลงทุนไปขาดทุน โดยไม่ได้แจ้งรายละเอียดให้ทราบ แล้วไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนผู้ต้องหาจะหลบหนีไป
กองทัพแจงเคลื่อนย้ายกำลังพล : สนง.
เลขานุการกองทัพบก ออกเอกสารแถลงการ เคลื่อนย้ายกำลังพล โดยระบุว่า กองทัพบก กำหนดแจ้งเคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ ของกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน โดยกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 เพื่อออกทำการฝึกเป็นหน่วยกองร้อยทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ประจำปี 2564 ณ พื้นที่ฝึกศูนย์การทหารปืนใหญ่ จ.ลพบุรี (ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19)
จับอดีตสาวประกัน : ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.4 บก.ป. เข้าจับกุม นางสาวน้ำ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ.497/2558 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์” โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณซอยเรวดี 15 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังเปิดสำนักงานตัวแทนขายประกันรถยนต์ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ต่อมาผู้ต้องหาได้ค้างชำระเงินค่ากรมธรรม์ประกันภัยกับบริษัทฯ เป็นจำนวนเงินหลายแสนบาท ทางบริษัทฯ จึงได้ปลดผู้ต้องหาให้สิ้นสภาพการเป็นตัวแทน แต่ผู้ต้องหายังได้แอบอ้างเป็นตัวแทนรับทำประกันภัย ภาคสมัครใจ ชั้น1 ให้กับผู้เสียหายอีกหลายราย ทั้งที่ตนเองไม่สามารถทำประกันภัยให้ได้
เด้งสารวัตร ปอท. : พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. และ รองโฆษก สตช.เผยว่า บก.ปอท. ได้ตรวจสอบกรณี ตำรวจ ยศ พ.ต.ท. ตำแหน่ง สารวัตร สังกัด บก.ปอท. ออกอุบายพาหญิงสาวอายุ 17 ปี เข้าโรงแรม แต่หญิงสาวหนีออกมาได้ และเข้าการแจ้งความ พบว่าบุคคลดังกล่าวที่ปรากฏตามข่าวเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดจริง ผบก.ปอท. ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจนายดังกล่าว มาปฏิบัติหน้าที่ประจำ ที่ บก.ปอท. แล้ว และกำชับให้คณะกรรมการฯ เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความรวดเร็ว หากผิดจริงจะดำเนินการทั้งทางวินัย และทางอาญา อย่างเด็ดขาดต่อไป