ทหาร-ตำรวจ” คุมเข้มชายแดนกันโควิดทะลักไทย
สั่งทหารตำรวจ เตรียมปรับการสนับสนุนมาตรการเชิงรุกควบคุมโรค และรับกับสถานการณ์ชายแดนหลังฤดูฝน
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า เมื่อ 0900 พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห.และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปล.กห. ประชุมติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 ร่วมกับ กอ.รมน. นขต.กห. เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม
ภาพรวมยังปรากฎการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามชายแดนอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านและความต้องการแรงงานเถื่อนของผู้ประกอบการภายในประเทศ โดยฝ่ายความมั่นคง ทหารตำรวจ ยังคงตรวจพบและจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองตามชายแดนและพื้นที่ชั้นในได้ต่อเนื่อง รอบ 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้เฉลี่ยเดือนละกว่า 4,500 ราย โดยตั้งแต่ 1- 9 ก.ย.64 จับกุมได้ 2,182 ราย ส่วนใหญ่พบชาวกัมพูชาและลาวมากขึ้น
การสนับสนุนป้องกันและควบคุมโรค ฝ่ายความมั่นคง ยังคงบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับขอความร่วมมือประชาชน ร่วมปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่ ศบค.กำหนดในการควบคุมการเคลื่อนย้ายและรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ทั้งการตั้งจุดตรวจตามเส้นทางและการตรวจเชิงรุกตามชุมชน โดยยังพบความเสี่ยงการรวมกลุ่มดื่มสุรา มั่วสุมเสพยาและเล่นการพนันต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ที่พบปริมาณผู้ติดเชื้อลดลงและผู้ป่วยหายกลับบ้านมากขึ้น ส่งผลให้ รพ.หลักและ รพ.สนามของทุกเหล่าทัพ 38 แห่ง 7,578 เตียงมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยเริ่มมีเตียงว่างพอสำหรับผู้ป่วยในระดับต่างๆมากขึ้น สำหรับ รพ.สนามศูนย์คัดกรองในพื้นที่สโมสรของทุกเหล่าทัพและ ตร.ยังคงเปิดบริการตรวจคัดกรองและรักษาประชาชน ขณะเดียวกันในพื้นที่จว.สีแดงเข้ม ทุกเหล่าทัพ ยังคงสนับสนุนจัดตั้งจุดบริการดูแลประชาชนในชุมชนและจัดสร้างพื้นที่แยกกักตัวในชุมชน ( CI ) จำนวน 51 แห่ง รวม 3,178 เตียงในหน่วยทหาร และสนับสนุนดูแลแยกกักที่บ้าน ( HI )ในการดูแลผู้ป่วยในชุมชนและผู้ป่วยตามบ้าน โดยจัดชุดจักรยานบรรทุกสิ่งของและยา กระจายเข้าไปแจกจ่ายตามบ้านกว่า 1,200 ครอบครัว ในพื้นที่ กทม. 27 เขต นอกจากนั้นยังคงหมุนเวียนกำลังพลต่อเนื่องกว่า 1 แสนราย ร่วมบริจาคโลหิตให้สถานพยาบาลและสภากาชาดไทยแล้ว กว่า 47.5 ล้านลิตร ในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน
พล.อ.ชัยชาญ’ รมช.กห. ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และรมว.กห.ได้แสดงความขอบคุณฝ่ายความมั่นคง ทหารและตำรวจ ที่สนับสนุนการแก้ปัญหาวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคอย่างแข็งขันที่ผ่านมา พร้อมกำชับนโยบาย นรม.และ รมว.กห.ให้ กอ.รมน. รวมทั้งทุกเหล่าทัพและตำรวจ ยังคงติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์และไม่ประมาทในการทำหน้าที่
พร้อมทั้งให้เตรียมปรับการสนับสนุนตามมาตรการควบคุมโรคเชิงรุกของ ศบค.ที่กำหนด และให้ประสานเตรียมวางแผนสนับสนุน สธ.เมื่อมีการปรับใช้กฎหมายปกติในการควบคุมโรค หากยกเลิกกฏหมายพิเศษควบคุมโรคปัจจุบัน เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ขณะเดียวกันยังให้คงความเข้มติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ชายแดนที่ยังมีการลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดรุนแรงในภูมิภาค โดยเฉพาะเตรียมรับกับสถานการณ์ชายแดนด้านประเทศเมียนมา ที่อาจมีความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อสิ้นฤดูฝน