สรุปข่าวประจำ วันที่ 4 กันยายน 2564
หุ้นโลกผันผวน : ปิดตลาดดาวโจนส์ปรับตัวลดลง -74.73 จุด (-0.21%) ปิดที่ 35,369.09 จุด เอสแอนด์พี -1.52 จุด (-0.034%) ปิดที่ 4,535.43 จุด ขณะที่ แนสแดค +32.34 จุด (+0.21%) ปิดที่ 15,363.52 จุด เช่นเดียวกับ นิเคอิ +584.60 จุด (+2.05%) ปิดที่ 29,128.11 จุด ส่วนตลาดหุ้นไทย ปิดทำการซื้อขายที่ 1,650.33 จุด เพิ่มขึ้น +2.58 จุด (+0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 78,707.76 ล้านบาท.
น้ำมันโลกลดไทยขึ้น : สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า ปิดตลาดเช้า 4 ก.ย. น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือน ต.ค.64 ปิดลดลง -0.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-1.24%) ปิดที่ 69.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ส่งมอบ เดือน พ.ย.64 ปิดที่ -0.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-0.78%) ปิดที่ 72.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาน้ำมันขายปลีกในไทย 2 ค่ายใหญ่ยังมีแก่ใจจะประกาศปรับราคาขึ้นสวนตลาดโลก โดยปรับราคาในกลุ่มดีเซลขึ้นอีกลิตรละ 30 ส.ต.มีผลเช้านี้.
ทองขาขึ้น : ราคาทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า +18.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (+1.00%) ปิดที่ 1,827.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านสมาคมค้าทองคำประกาศเปลี่ยนแปลงราคาทองคำตลอดวัน 2 ครั้ง โดยมีราคาเปิดเป็นราคาปิดวันก่อน และขยับขึ้นช่วงปิดตลาด +50 บาท กำหนดราคาซื้อทองคำแท่ง บาทละ 27,850 บาท ขาย 27,950 บาท ขณะที่ราคาซื้อทองคำรูปพรรณ 27,348.64 บาท และขาย 28,450 บาท.
ค่าบาทอ่อนเล็กๆ : ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เมื่อ 3 ก.ย. ไว้ที่ 32.555 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลงน้อยมากเทียบกับวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.447 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ.
ลุยแจกชุดตรวจ : นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ระบุถึงการแจกชุดตรวจ ATK แบบ Self-test 8.5 ล.ชุด ให้ประชาชนตรวจโควิดด้วยตัวเอง โดยจะเร่งกระจายชุดตรวจให้กับกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่สีแดง ประกอบด้วยในครอบครัว/ชุมชนมีผู้ติดเชื้อ และแจกที่หน่วยบริการ ได้แก่ รพ. และ รพ.สต.ทุกแห่ง รวมถึงคลินิก และร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตัวเอง คาดว่าจะเริ่มแจกได้ 15 ก.ย.64.
ขัดแย้งกันเอง : ผช.โฆษก ศบค. ขอให้ผู้ที่ฉีดคซีนเข็มแรก และติดเชื้อโควิดฯแต่รักษาหายแล้ว มาฉีดวัคซีนเข็มสองอีกครั้งเมื่อผ่านไปแล้ว 12 สัปดาห์ แต่ข้อมูลนี้ต่างจากสิ่งที่ ก.สาธารณสุขเคยแจงก่อนหน้านี้ เพราะได้แนะนำให้ผู้ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน หรือฉีดไม่ครบ 2 เข็ม หากป่วยเป็นโรคโควิด 19 ให้ฉีดวัคซีนชนิดใดก็ได้เพิ่มอีก 1 เข็มภายใน 1-3 เดือนหลังจากเริ่มป่วย คนที่เคยได้ครบ 2 เข็มแล้ว ไม่ต้องฉีดเพิ่มอีก.
ผ่อนคลาย : ผช.โฆษก ศบค. แถลงว่า ประชุม ศบค.ชุดเล็ก พิจารณาปัญหาของพนักงานร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามประกาศข้อกำหนดฉบับที่ 32 โดยต้องปิดช่วง 2 ทุ่ม แต่คนกลุ่มนี้ต้องทำความสะอาดร้านฯ จึงอนุญาตขยายเวลาเดินรถถึง 4 ทุ่ม มีผล 2 ก.ย. แต่ไม่ถือเป็นการผ่อนคลาย และให้ประชาชนวางแผนการเดินทาง อย่าไปแออัดพร้อมกัน หาก 2 สัปดาห์ตัวเลขไม่เพิ่ม จะผ่อนคลายมากขึ้น.
มอบเงินเหยื่อโควิด : นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯสมุทรสาคร เป็นผู้แทนสำนักนายกรัฐมนตรีมอบเงินช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์กรณีเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่สู้โควิดฯ จำนวน 2 ราย คือนายพิเชษฐ์ สหกิจ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลสวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และ น.ส.อุไรวรรณ จันทรปลิน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพสมุทรสาคร อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รายละ 150,000 บาท โดยกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวทั้งสองรายและขอเป็นกำลังใจให้ต่อสู้ในการดำเนินชีวิตต่อไป.
ข้อมูลโควิดฯระบาด รง. : ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุในงานเสวนา “ผนึกกำลัง ฝ่าวิกฤต COVID-19 ในสถานประกอบกิจการ” ว่า จากข้อมูลของศูนย์บริหารสถานการณ์วิกฤตกระทรวงอุตสาหกรรม พบการติดเชื้อในโรงงาน ช่วง 1 เม.ย. – 2 ก.ย.64 มากถึง 881 แห่งใน 62 จ. และมีผู้ติดเชื้อ 61,919 คน โดย จ.ที่พบการระบาดในโรงงานสูงสุด คือ เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา สระบุรี สมุทรสาคร และเพชรบูรณ์ ส่วนประเภทอุตสาหกรรมที่พบมากสุด คือ อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ โลหะ เครื่องนุ่งห่ม และพลาสติก.
เคลียร์ใจ : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้แจงว่า แม้ไทยไม่ใช่ชาติที่รับมือโควิดฯได้ดีสุด แต่ไม่ได้แย่สุด จนท.ทุกฝ่ายร่วมรับมือเต็มกำลัง ทำงานเต็มที่ เสียสละ ย้ำรัฐบาลไม่ได้ค้าความตาย มีผู้หายป่วยกว่า 85% หรือกว่า 1.05 ล้านคน พร้อมชวนให้ทุกคนคิดและมองไปข้างหน้า รัฐบาลและศบค.จะทำอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยืดหยุ่นให้เหมาะกับสถานการณ์ เชื่อว่าฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ ทั้งนี้ มีข่าวระบุว่าปัญหาความขัดแย้งกับ ร.อ.ธรรมณัฐ พรหมเผ่น เลขาฯ พปชร.ได้รับการเคลียร์ใจ ก่อนลงมติไม่ไว้วางใจช่วงสายวันที่ 4 ก.ย.นี้แล้ว.
ย้ายโจ้เข้าคลองเปรม : รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมฯ ระบุกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผกก.โจ้ และพวก 7 ราย ผู้ต้องหาในการกระทำผิดอาญาที่มีพฤติกรรมกระทำผิดร้ายแรงเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ โดยกรมราชทัณฑ์ ได้รับคำอนุญาตจากศาลและหนังสือประสานจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการขอย้ายตัวกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวจากเรือนจำกลางพิษณุโลกมาเข้าเรือนจำกลางคลองเปรมเรียบร้อยแล้ว.