กอช.ดึงไทยพีบีเอส สร้างความรู้ออมเงินสู่สังคมสูงอายุ
ไทยพีบีเอส ผนึก กอช. เร่งสร้างความตระหนักรู้ พ่วงส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยวางแผนการออมเงิน เตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุ
น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวภายหลังร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การสื่อสารประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการออม กับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส โดยมี ร.ศ.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ร่วมลงนามฯ เมื่อช่วงสายวันที่ 25 ส.ค.2564 ว่า… กอช.เป็นกองทุนบำนาญภาคประชาชน สำหรับผู้ที่ไม่มีสวัสดิการจากรัฐบาลได้มีเงินออมไว้ใช้เป็นรายเดือนหลังอายุ 60 ปี โดยมีเป้าหมายสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างหลักประกันที่มั่นคงให้ชีวิตของประชากร
สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ที่ถือเป็นหนึ่งใน 6 ยุทธศาสตร์ มุ่งเน้นด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม สร้างความมั่นคงของผู้สูงวัยให้มีรายได้ที่พอเพียงจนถึงวัยเกษียณยกระดับศักยภาพของประเทศ พัฒนาคนในหลากหลายมิติ ลดความเหลื่อมล้ำ และข้อจำกัดต่อการยกระดับศักยภาพ ทุนมนุษย์
ดังนั้น การออมเงิน จึงเป็นปัจจัยของความสำเร็จและเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน การส่งเสริมวินัยการออมให้ประชาชนตระหนักถึงการมีเงินไว้ใช้ยามเกษียณกับ กอช. ถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกหน่วยงานควรร่วมมือกันผลักดัน โดยการทำบันทึกข้อตกลงฯในครั้งนี้ มีเป้าหมายร่วมกันในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักด้านการวางแผนทางการเงิน การออมเงินเพื่อวัยเกษียณกับ กอช. แก่ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อประโยชน์ต่อการเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อโทรทัศน์ และ/หรือสื่อสารต่างๆ ทุกแขนงของ กอช. และ ส.ส.ท. รวมถึงดำเนินการกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกัน
ในปัจจุบัน กอช. มีการสื่อสารกับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และสมาชิก กอช. หลากหลายช่องทาง ทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ (เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และไลน์) เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่เป็น นักเรียน นักศึกษา วัยทำงานที่ประกอบอาชีพอิสระ แรงงานนอกระบบ อายุตั้งแต่ 15 ปี ถึง อายุ 60 ปี ได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการออมกับ กอช. เพิ่มมากขึ้น จึงได้ร่วมมือกับ ส.ส.ท. หรือ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดความรู้ สร้างความตระหนักให้ประชาชนไทยเตรียมความพร้อมก่อนวัยเกษียณ ได้รู้จักการวางแผนชีวิตตั้งแต่ขณะเรียน ยิ่งออมเร็ว ชีวิตยิ่งมั่นคง โดยออมเงินกับ กอช. เริ่มต้นเพียง 50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี พร้อมได้เงินสมทบเพิ่มตามช่วงอายุของสมาชิก
ทั้งนี้ สมาชิก กอช. จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการออมเงินกับ กอช. สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนเงินออมและคุ้มครองค้ำประกันเงินที่นำไปลงทุนให้เกิดผลตอบแทนจากการลงทุน เมื่อสมาชิกออมครบอายุ 60 ปีบริบูรณ์ ในอัตราไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน เฉลี่ย 7 ธนาคาร สมาชิกสามารถดูยอดเงินออมสะสม เงินสมทบ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน “กอช.” ได้ตลอดเวลา
ด้าน ร.ศ.วิลาสินี กล่าวว่า ส.ส.ท.ยินดีที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเผยแพร่สาระความรู้ เพื่อสร้างวินัยการออม และการวางแผนบริหารการเงินเพื่อครอบครัว การวางแผนออมเพื่ออนาคตเป็นที่พึ่งวัยเกษียณ ซึ่งที่ผ่านมา ไทยพีบีเอส ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการออมมาโดยตลอด โดยนำเสนอสาระความรู้ ความบันเทิง รูปแบบต่าง ๆ ผ่านช่องทางของไทยพีบีเอส เช่น ซิตคอมมันนี่ที่รัก ที่สะท้อนปัญหาปากท้อง หยิบยกประเด็นในปัจจุบันมานำเสนอเพื่อความอยู่รอดในสังคมยุควิถีใหม่ รายการสูงวัยวาไรตี้ ที่ออกอากาศทาง ALTV ทีวีเรียนสนุก ช่องหมาย เลข 4 เป็นรายการที่เปิดพื้นที่การแชร์เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ แลกเปลี่ยนและเรียนรู้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการก้าวสู่ช่วงชีวิตของผู้สูงอายุอย่างเรื่องสุขภาพ, ไลฟ์สไตล์, เทคโนโลยี และเรื่องการเงิน เพื่อช่วยออกแบบชีวิตก้าวสู่ Smart Life
โดยความร่วมมือกับ กอช.ครั้งนี้ ถือเป็นการเน้นย้ำ เรื่องการเตรียมความพร้อมรองรับสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ ในทุกมิติ ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และสภาพแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันภาครัฐได้มีนโยบายใน การเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงอายุ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ด้วยระบบการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุในรูปแบบการออมภาคบังคับ และภาคสมัครใจ
สำหรับ การออมภาคบังคับ เป็นการออมที่ภาครัฐจัดให้กับผู้ที่เป็นแรงงานในระบบ จะมีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ประกันสังคม มาตรา 33 มาตรา 39 ส่วนการออมภาคสมัครใจสำหรับบุคคลทั่วไป รวมถึงพนักงานรัฐวิสาหกิจ และลูกจ้างประจำส่วนราชการ คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการออมภาคสมัครใจที่รัฐจัดให้กลุ่มแรงงานนอกระบบหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ คือ ประกันสังคมมาตรา 40 (ทางเลือก 1 ทางเลือก 2 และทางเลือก 3) และ กองทุนการออมแห่งชาติ
ไทยพีบีเอส ขอย้ำว่า เรื่องการออมไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากมีการปลูกฝังสร้างความเข้าใจตั้งแต่กลุ่มเด็ก เยาวชน อาจจะช่วยนำพาให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักของความยากจนหรือลดความเหลื่อมล้ำมากขึ้นในอนาคต ซึ่งไทยพีบีเอสจะช่วยเร่งส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ วางแผนทางการเงิน ให้ประชาชนคนไทยได้เข้าใจ เข้าถึงการออมเงินเพิ่มมากขึ้น ผ่านสื่อทุกแขนงของไทยพีเอส ทั้งสื่อโทรทัศน์ Podcast สื่อออนไลน์ และ อื่น ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนด้านการออมเงินมากที่สุด.