สรุปข่าวประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2564
หุ้นไทยสัปดาห์หน้า : บล.กสิกรไทย คาดดัชนีหุ้นไทยช่วง 9-13 ส.ค. มีแนวรับที่ 1,500 และ 1,475 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,535 และ 1,545 จุด ตามลำดับ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์โควิดฯ ทั้งในและต่างประเทศ ความคืบหน้าในการกระจายวัคซีน ประเด็นการเมืองภายในประเทศ รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/64 ของบจ. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ก.ค. ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ของยูโรโซน ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ค.ของญี่ปุ่น ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ค.ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภค.
น้ำมันดิบดิ่ง : ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าหักหัวดิ่งลงมาแล้ว โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ก.ย. เช้านี้ -1.20 ดอลลาร์/บาร์เรล (-1.74%) ปิดที่ 67.89 ดอลลาร์/บาร์เรล เช่นกัน สัญญาซื้อข่ายล่วงหน้าของน้ำมันเบรนท์ ส่งมอบเดือน ต.ค. -0.99 ดอลลาร์/บาร์เรล (-1.39%) ปิดที่ 70.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันขายปลีกในไทย เพิ่งปรับลดลงไปเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ แต่จะคงราคาได้นานแค่ไหน ต้องลุ้น!.
ทองร่วงหนัก : ราคาขายทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ที่ปิดตลาดช่วงเช้า ตรงกับ 8 ส.ค.ของไทย ลดหนักมากถึง -41.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (-2.31%) ปิดที่ 1,762.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เช่นเดียวกับที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำเมื่อ 7 ส.ค. เพียงครั้งเดียว ลดลงจากราคาปิดวานนี้ถึง -450 บาท กำหนดราคาซื้อทองคำแท่ง บาทละ 27,900 บาท ขาย 28,000 บาท ขณะที่ราคาซื้อทองคำรูปพรรณ 27,394.12 บาท และขาย 28,500 บาท.
ค่าบาทสัปดาห์หน้า : แบงก์กสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทช่วง 9-13 ส.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 32.65-33.133.10-33.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยมีปัจจัยสำคัญทั้งในและต่างประเทศ เช่นเดียวกับปัจจัยของตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้าข้างต้น ทั้งนี้ ค่าเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 33.39 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่าท่ามกลางสัญญาณเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศ ที่มีผลกระทบต่อเนื่องไปยังแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้า .
ตามเอาผิดต่อ : เกิดการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม 7 สิงหา กับจนท.ตร. แม้จะยกเลิกการเดินทางไปยังสถานที่สำคัญ ก่อนจะเปลี่ยนจุดหมายไปที่อื่น แต่เมื่อ ตร.ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางใส่กลุ่มผู้ชุมนุมฯ กระทั่ง มีการเผารถ ตร. ซึ่งจะเป็นฝีมือกลุ่มผู้ชุมนุมฯหรือมือที่ 3 สร้างเหตุป้ายสีต้องพิสูจน์ กระนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมฯได้ยกเลิกการชุมนุมฯ เมื่อช่วงเย็น จากนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุช่วงดึกขอบคุณ จนท.ทุกฝ่ายที่ควบคุมการชุมนุมฯ และประชาชนที่ไม่เข้าร่วมหรือไปยังพื้นที่ชุมนุมฯ พร้อมเสียใจที่มีการก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน สร้างความเดือดร้อนและสร้างผลกระทบ ทั้งนี้ จะดำเนินการกับผู้ชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงและทำผิดกม.ต่างๆ.
กลัวถูกฟ้องกลับ : หลังจาก คกก.วินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารฯ เห็นสมควรให้ ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับนายวิษณุ เครืองาม ล่าสุด โฆษก ป.ป.ช. ระบุ ประธาน ป.ป.ช.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมป.ป.ช.ว่าจะต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ โดยจะดูว่า คกก.วินิจฉัยฯยึดกฎหมายฉบับใด มีกฎหมายป.ป.ช.รองรับหรือไม่ เพราะอาจจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามมาได้.
กองทัพสู้โควิด : โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุ รมช.กห.และปลัด กห. ประชุมหน่วยงาน ทหาร-ตร. ผ่านระบบ VTC เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด โดยเร่งเสริมขีดความสามารถ รพ.สนาม 29 แห่ง 6,799 เตียง ที่กองทัพดูแลเดิม และอยู่ระหว่างเร่งจัดตั้ง รพ.สนามและพื้นที่แยกกักคุมโรคชุมชน ( CI ) ทั้งในหน่วยทหารทั่วประเทศและสนับสนุนการจัดตั้งหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ให้เพียงพอรองรับจำนวนผู้ป่วยที่มีมากขึ้น พร้อมปรับ “จุดบริการประชาชน” ให้เหมาะสมเข้าถึงชุมชนมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันในทุกเหตุการณ์.
รุกแจกชุดตรวจฯ : เลขาธิฯ สปสช. เผยที่ประชุมชี้แจงแนวทางจ่ายชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit (ATK) ให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสำหรับร้านยาแผนปัจจุบันประเภท 1 และ คลินิกพยาบาล และว่าบอร์ด สปสช.ได้มีมติให้ ดำเนินการจัดหาชุดตรวจโควิด 8.5 ล้านชุด แจกให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ด้วยเอง ในช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. นี้ ซึ่งโจทย์คือจะทำอย่างไรให้ชุดตรวจเหล่านั้นกระจายถึงมือประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็วและกว้างขวางที่สุด เพื่อลดอุปสรรคในการเข้าถึงบริการของประชาชน.