ยอดจ่ายเงิน 4 โครงการรัฐวันแรก 7.8 ล.ราย 1.6 พันลบ.
“โฆษกคลัง” เปิดข้อมูลใช้จ่าย 4 มาตรการรัฐ “ลดภาระค่าครองชีพ – ฟื้นฟูเศรษฐกิจ” เผย! วันแรกโครงการ มีคนใช้สิทธิกว่า 7.8 ล้านคน วงเงินทะลุเกิน 1.6 พันล้านบาท แจง! เฉพาะ “คนละครึ่งเฟส 3” ยอดใช้จ่ายแบบโคเพย์รวมเฉียด 800 ล้านบาท ขณะที่ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” มีคนใช้สิทธิน้อยมากแค่ 3.4 พันราย เจียดเงินในกระเป๋าออกมาจ่ายแค่ 9 ล้านบาท
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะ โฆษกกระทรวงการคลัง ว่า วันแรกของมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 ประกอบด้วย โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โครงการเพิ่มกำลังซื้อกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 3 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ พบว่า การใช้จ่ายวันแรก มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวมกว่า 7.8 ล้านราย และมียอดใช้จ่ายรวม ทั้งหมด 1,646.3 ล้านบาท สรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้
1. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิ 3.5 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 791.3 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 399.4 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 391.8 ล้านบาท
2. โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิ 3,428 ราย โดยเป็นยอดการใช้จ่ายรวม 9.1 ล้านบาท
3. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิ 4.2 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 826.3 ล้านบาท
4. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิกว่า 1 แสนราย มียอดการใช้จ่ายรวม 19.6 ล้านบาท
โฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า การใช้จ่ายในทุกโครงการ จะต้องเป็นการจ่ายเงินระหว่างประชาชนกับร้านค้าหรือผู้ให้บริการแบบพบหน้า (face-to-face) เท่านั้น และจะต้องไม่มีกระบวนการใดๆ รองรับการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ที่เป็นการหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว เ
ช่น การนำ QR Code ไปคัดลอกส่งต่อแก่บุคคลอื่นเพื่อสแกนจ่ายเงิน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้จ่ายเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการและตรวจสอบความถูกต้องได้
นอกจากนี้ ในการสแกนจ่ายค่าสินค้าหรือบริการจะต้องระบุยอดเงินให้ตรงตามมูลค่าสินค้าหรือบริการนั้น เนื่องจากไม่สามารถทอนเงินหรือรับแลกสินค้าหรือบริการคืนเป็นเงินสดได้
อนึ่ง ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.นี้ โดยสามารถตรวจสอบร้านค้าที่เข้าร่วมแต่ละโครงการได้ที่ www.คนละครึ่ง.com หรือ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com.