คลังแจง! ยอดใช้จ่ายช่วงท้ายโครงการเราชนะสุดอืด
ช่วงท้ายโครงการรัฐ ยอดใช้จ่าย “เราชนะ” อืดเต็มทน! คาดเพราะใช้จ่ายเกือบเต็มสิทธิแล้ว สรุป ณ 26 เม.ย. มีการใช้จ่ายขยับจากเดิมไม่มากนัก ยอดรวมแค่ 2.2 แสนล.เศษ
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะ โฆษกกระทรวงการคลัง รายงานความคืบหน้าของโครงการเราชนะ (โครงการฯ) ณ วันที่ 26 เมษายน 2564 ดังนี้
1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,466 ล้านบาท
2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 114,098 ล้านบาท
และ 3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 14,609 ล้านบาท
ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 202,173 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ
ผู้สื่อข่าวรายงานเติมว่า โครงการเราชนะ ที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง โอนสิทธิการใช้จ่ายเงินผ่านแอปฯกระเป๋าตัง รายละ 7,000 บาท ตามช่วงเวลานับแต่เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 (งวดแรก) เป็นต้นมา และรับทุกสัปดาห์จนครบวงเงินที่กำหนด โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับก่อนหลังไม่เท่ากัน แต่รับวงเงิน 7,000 บาทเท่ากัน ซึ่งทุกกลุ่มจะสิ้นสุดการใช้จ่ายเงินในวันที่ 31 พฤษภาคม จากนั้น รัฐบาลประกาศขยายเวลาการใช้จ่ายออกไปอีก 1 เดือน เป็นสิ้นสุด 30 มิถุนายนที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่กระทรวงการคลังรายงานนับแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สังเกตได้ว่ายอดใช้จ่ายในแต่ละสัปดาห์เพิ่มขึ้นจากเดิมไม่มากนัก เนื่องจากผู้มีสิทธิได้ใช้จ่ายเงินในโครงการฯเป็นส่วนใหญ่เกือบหมดแล้ว ดังนั้น สรุปยอดรวมการใช้จ่ายในโครงการ “เราชนะ” ในช่วงหลัง จึงขยับเพิ่มขึ้นได้ไม่มากสักเท่าใด.