29 จ.สั่งคุมเข้ม “คนเมืองหลวง” เข้า-ออก!
29 จ.คุมเข้มคนจากกรุงเทพฯ-ปริมณฑล รวมถึงจังหวัดรอบนอก สั่งกักตัว 14 วัน อธิบดีกรมควบคุมโรค ยอมรับ รอบนี้ “ระบาดเร็วจี๋” เพราะเป็นนักเที่ยวราตรีวันทำงาน 20-29 ปี
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ลุกลามบานปลาย ล่าสุด กรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงบางจังหวัดใกล้เคียง รวม 5 จังหวัด กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงที่จังหวัดต่างๆ งัดมาตรการคุมเข้มแจ้งการเข้า-ออก พร้อมมาตรการกักตัวชนิดเข้มข้น
วันที่ 10 เมษายน 2564 ณ ศูนย์แถลงข่าวโรคไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงตอนหนึ่งระบุว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เผยตัวเลขสถานการณ์ของไทยอยู่ในอันดับที่ 113 ของโลก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 789 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 31,658 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 28,161 ราย รักษาอยู่ 3,400 ราย
แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 2,810 ราย และรักษาในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ อีก 590 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยอาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 10 ราย เสียชีวิตใหม่ 1 ราย รวม 97 คน ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 781 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 8 ราย เป็นการค้นหาเชิงรุก/โรงงาน 259 ราย และเข้าระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 522 ราย
ทั้งนี้ การติดเชื้อระลอกใหม่รอบนี้เป็นแบบก้าวกระโดด ตั้งแต่ 1-10 เมย. รวม 2,697 คน โดยกรุงเทพฯเป็นอันดับแรกคือ 1,058 คน ส่วนข้อมูลผู้ติดเชื้อเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงไปจังหวัดอื่นๆ 1,016 ราย จาก 40 จังหวัด โดยพบกรุงเทพฯมาเป็นอันดับ 1 ติดเชื้อ 583 ราย พบมากสุดที่สถาบันเทิงคลิสตัลคลับ ทองหล่อ
สมุทรปราการ 82 ราย ชลบุรี 70 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 49 ราย นนทบุรี 34 ราย สุพรรณบุรี 18 ราย ปทุมธานี 16 ราย อุดรธานี 15 ราย นครปฐม 11 ราย เชียงใหม่ 10 รายสมุทรสาคร 9 ราย ขอนแก่น 8 ราย อุบลราชธานี
6 ราย พิษณุโลก และ ชุมพร 5 ราย จันทบุรีและระยอง 4 ราย เชียงราย เพชรบุรี ชัยภูมิ นครราชสีมา ภูเก็ต และลพบุรี 3 ราย เพชรบูรณ์กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา บุรีรัมย์ อยุธยา ราชบุรี ลำปาง และ สุราษฏร์ธานี 2 ราย
เลย ตราด ตาก น่าน มหาสารคาม ยโสธร สมุทรสงคราม และ สระบุรี 1 ราย เป็นต้น ถือเป็นการกระจายตัวค่อนข้างเร็วเพราะปัจจัยนักท่องเที่ยวเป็นคนไทย และอยู่ในวัยทำงานกลุ่มหนุ่มสาวอายุ 20-29 ปี
“สถานการณ์โควิดในประเทศลุกลามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระจายหลายจังหวัด ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และเดินทางข้ามจังหวัด ดังนั้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ต้องช่วยกันลดความเสี่ยงในวงกว้าง หลีกเลี่ยงเข้าสถานที่ปิด หลีกเลี่ยงผู้ที่มีรวมกันจำนวนมาก และป้องกันตัวเองตลอดเวลา หากจำเป็นต้องเข้าชุมชน และ สถานที่สาธารณะต้องปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT” นพ.โอภาส ระบุ และว่า
ในคำสั่งของศบค. มีการสั่งปิดสถานบริการ สถานบันเทิงในพื้นที่ 41 จังหวัด แต่ไม่ได้มีการห้ามเดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดขณะนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกัน โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสามารถสั่งการเพิ่มเติมได้ โดยในขณะนี้มี 29 จังหวัดที่หากเดินทางไปแล้วอาจต้องกักตัว 14 วัน อาทิ กำแพงเพชร เชียงใหม่ น่าน ตาก พะเยา เพชรบูรณ์ ลำพูน อุทัยธานี ชัยภูมิ นครพนม
บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร เลยสกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ ชัยนาท
สระบุรี ชุมพร ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พังงา สงขลา เป็นต้น อย่างไรก็ตามก่อนการเดินทางตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดอีกครั้งเนื่องจากคำสั่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงมหาดไทย.