ลุ้นปิดฉาก “คนละครึ่ง” พรุ่งนี้ (31) เกิน 1 แสนล.แค่ไหน?
รอปิดฉาก! “คนละครึ่งเฟส 2” เผย! ยอดใช้จ่ายฯ ณ 30 มี.ค. ทะลุ 1.1 แสนล้านบาท หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ พบคนใช้จ่ายครบ 3,500 บาทแค่ 7 ล้านคนจากยอดเต็มเกือบ 14 ล้านคน ส่วนเฟสใหม่ “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” บอกให้คนไทยรอก่อน ด้าน “เราชนะ” ยอดใช้จ่ายพุ่งกว่า 1.8 แสนล้านบาทแล้ว
อีกวันเดียว! ก็ปิดฉากแล้ว…สำหรับโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ที่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังให้สิทธิ์ใช้จ่ายผ่านแอปฯเป๋าตังตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมจนถึง 31 มีนาคม 2564 รวม 3,500 บาทต่อคน และเพิ่มให้อีกคนละ 500 บาท สำหรับคนที่เข้าร่วมโครงการฯในเฟสแรก
ล่าสุด ยังเป็นคำตอบเดิม! จาก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง สำหรับโครงการคนละครึ่งเฟส 3 โดยเจ้าตัวบอกให้รอดูกันอีกที ซึ่งความเป็นจริงการ ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 30 มีนาคมนี้ ก็น่าจะมีความชัดเจน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความคืบของเฟส 3
สำหรับตัวเลขการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งทั้ง 2 เฟส นั้น ทาง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า ณ วันที่ 30 มีนาคม พบยอดใช้จ่ายสะสมในโครงการฯ ที่สามารถเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากถึง 101,305.5 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่ภาครัฐจ่ายให้ประชาชน (จากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท) รวม 52,500 ล้านบาท ในจำนวนนี้ มีผู้ที่ใช้ครบ 3,500 บาทแล้วจำนวน 7,058,841 ราย คาดว่ายังมีเม็ดเงินเล็กน้อยของแต่ละคนที่เหลือค้างติดบัญชีในแอปฯเป๋าตังไม่มากนัก ซึ่งหากโครงการคนละครึ่งเฟส 3 เกิดขึ้นเมื่อใด? เม็ดเงินค้างจ่ายก็จะนำไปสมทบกับเงินใหม่ทันที
ส่วนความคืบหน้าของ โครงการเราชนะ ณ วันที่ 30 มีนาคม 2564 ทาง สศค.รายงานไว้ดังนี้
1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 69,339 ล้านบาท
2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 101,664 ล้านบาท
และ 3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.0 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 10,545 ล้านบาท
ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.5 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 181,548 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ.