คปภ.-กรมขนส่ง-ส.วินาศภัยเชื่อมข้อมูลหนุนต่อพ.ร.บ.รถ

คปภ.จับมือกรมการขนส่งทางบกและธุรกิจประกันภัย พัฒนาระบบเทคโนโลยีเชื่อมข้อมูลการทําประกันภัย พ.ร.บ. เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ประชาชนเต็มพิกัด คาดดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้

สำนักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) การพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อตรวจสอบการจัดทําประกันภัยรถภาคบังคับ ระหว่าง สํานักงาน คปภ. กรมการขนส่งทางบกและสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อต่อยอดการเชื่อมโยงข้อมูลจากปี 2563ที่จัดให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ สําหรับการให้บริการชําระภาษีรถยนต์ประจําปี ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax และตู้รับชําระภาษีรถประจําปีอัตโนมัติ (Kiosk) ของกรมการขนส่งทางบก
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(เลขาธิการ คปภ.)เปิดเผยว่าปัจจุบันประชาชนนําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดํารงชีวิตมากขึ้น สํานักงาน คปภ.ได้เล็งเห็นถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่ช่วยอํานวยความสะดวกในด้านต่างๆให้กับประชาชน
โดยเฉพาะในการจัดทําประกันภัยรถภาคบังคับ และชําระภาษีรถประจําปี จึงได้มีการพัฒนาระบบรายงานข้อมูลประกันภัยรถภาคบังคับ (Compulsory Motor Insurance System : CMIS) อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มศักยภาพในการรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลให้ครอบคลุมทุกช่องทางการชําระภาษีรถประจําปีของกรมการขนส่งทางบกให้มีความรวดเร็ว โดยมีการเข้ารหัสทําให้ข้อมูลมีความปลอดภัย
ซึ่งภาพการทํางานของระบบเชื่อมโยงข้อมูลนี้ คือเมื่อประชาชนมายื่นชําระภาษีรถประจําปี กรมการขนส่งทางบกจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับรถมายังสํานักงาน คปภ.อาทิ เลขทะเบียนรถ ประเภทรถ เพื่อตรวจสอบประกันภัยรถภาคบังคับ และเมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวในระบบฐานข้อมูลของสํานักงาน คปภ. แล้ว ระบบจะมีการแจ้งผลการตรวจสอบไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อใช้ประกอบการรับชําระภาษีรถประจําปีจนเสร็จสิ้น

การพัฒนาระบบดังกล่าวจะช่วยลดภาระทั้งกับประชาชนผู้ใช้บริการ และหน่วยงานของรัฐในการจัดเก็บเอกสารหลักฐาน ส่งผลให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และครบวงจร ซึ่งจะเป็นการยกระดับการอํานวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างแท้จริง ตลอดจนเป็นการส่งเสริมธุรกิจประกันภัยไปสู่การประกันภัยดิจิทัลแบบครบวงจร และสอดคล้องกับนโยบายการเป็นรัฐบาลดิจิทัล รวมทั้งจะเป็นการลดความสิ้นเปลืองในการใช้กระดาษซึ่งสอดคล้องกับนโยบายในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก สํานักงาน คปภ. และสมาคมประกันวินาศภัยไทย คํานึงถึงความปลอดภัยของข้อมูล จึงจะมีระบบเก็บรักษาข้อมูลที่ได้จากความร่วมมือตามบันทึกข้อตกลงฉบับนี้อย่างปลอดภัยเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะลดระยะเวลา การให้บริการกับประชาชนที่มาติดต่อดําเนินงานด้านทะเบียนและภาษีรถ รวมทั้งลดขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยการนําเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าและไม่ถูกต้องในการรับชําระภาษีรถประจําปี สอดรับกับนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนโยบายรัฐบาลที่ต้องการนําระบบราชการในปัจจุบันยกระดับสู่การเป็นระบบราชการ 4.0
ซึ่งในปัจจุบันการรับชําระภาษีรถยังคงใช้หลักฐานการจัดทําประกันภัยรถที่ยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาความคุ้มครองเป็นเอกสารประกอบ (ในรูปแบบกระดาษ) ทําให้เกิดภาระทั้งกับประชาชนผู้ใช้บริการ และหน่วยงานของรัฐในการจัดเก็บเอกสารหลักฐานดังกล่าว สอดรับกับนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน บูรณาการและยกดับระบบราชการไทยสู่การเป็นระบบราชการ 4.0
สําหรับนายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้กล่าวขอบคุณทางกรมการขนส่งทางบก และสํานักงานคปภ.ที่ให้ความสําคัญในการพัฒนา และนํานวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาระบบการประกันภัยรถภาคบังคับ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากภาคประชาชนจะได้ประโยชน์แล้ว ภาคธุรกิจประกันภัยก็จะได้รับประโยชน์จากการลดต้นทุนการใช้กระดาษ ซึ่งจะนําไปสู่การพัฒนา E-Policy อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต โดยคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้