ธนารักษ์ลุยแก้ “รุกที่ราชพัสดุ” ปลื้ม!คืบหน้ามาก
“ยุทธนา” นำทีมธนารักษ์ ลุยแก้ปัญหาบุกรุกที่ราชพัสดุที่เชียงใหม่ ปลื้ม! จัดมอบสัญญาเช่าถูก กม. แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด แถมมีความคืบหน้าอย่างมาก พร้อมจัดตลาดชุมชนยั่งยืน สร้างโอกาสมีรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากถึงชุมชน
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วย นายสมมาตร มณีหยัน ผอ.กองเทคโนโลยีการสำรวจและฐานข้อมูลที่ราชพัสดุ และคณะ ลงพื้นที่แจกสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุตามนโยบายเรื่องลดความเหลื่อมล้ำของสังคมด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ภายใต้โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” พร้อมจัดตลาดชุมชน ภายใต้โครงการ “เปลี่ยนชุมชน เป็นห้องประชุม ในที่ราชพัสดุ” ตามแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยังยืน ณ เทศบาลตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 16 มีนาคม 2564
ในการนี้ นายสมเกียรติ บุญทัน ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ นายอรรถพล คนเพียร ธนารักษ์พื้นที่เชียงราย น.ส.จารุวรรณ ศิริสว่างเมฆ ธนารักษ์พื้นที่พะเยา น.ส.จันทร์สม เป็นตาธรรม ธนารักษ์พื้นที่แพร่ นางเขมฤดี จันทร์คง ธนารักษ์พื้นที่ลำปาง น.ส.จีริสุดา ลาภจิตร ธนารักษ์พื้นที่ลำพูน และ น.ส.เบญจพรรณ รัตนวิฬาร์ ธนารักษ์พื้นที่แม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับ
นายยุทธนา กล่าวว่า การมอบสัญญาเช่าในวันนี้ เป็นการมอบสัญญาเช่าให้กับประชาชนที่ประกอบการเกษตร บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ส.ชม.2257 ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ นำมาจัดให้ผู้ครอบครองเช่าที่ราชพัสดุจำนวน307 ราย โดยมีประชาชนบางส่วนเป็นผู้ป่วยไม่สามารถมารับมอบสัญญาเช่า ในการนี้ ได้รับเกียรติจาก นายศรัณยู มีทองคํา รอง ผจว.เชียงใหม่ มาร่วมมอบสัญญาเช่าและร่วมเป็นสักขีพยานด้วย จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
สำหรับการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุดังกล่าว สืบเนื่องมาจากรัฐบาลมีนโยบายการบริหารทรัพย์สินของประเทศเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน มุ่งเน้นให้มีการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและที่ดินทำกินของราษฎร โดยการรับรองสิทธิในการเข้าครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ภายใต้ โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” โดยการจัดให้ผู้ครอบครองที่ราชพัสดุที่ครอบครองอยู่มาก่อนวันที่ 4 ตุลาคม 2546 ได้เช่าที่ราชพัสดุเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและเป็นที่ทำกิน
โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กรมธนารักษ์ได้กำหนดเป้าหมายดำเนินการ โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” ทั่วประเทศจำนวนประมาณ 31,800 ราย และในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จะดำเนินการ โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” อีกไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย ทั่วประเทศทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงค่าเช่าที่กรมธนารักษ์ควรจะได้รับ กับค่าเช่าที่กรมธนารักษ์จัดให้ประชาชนเช่าตามโครงการดังกล่าว จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่กรมธนารักษ์ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลและกระทรวงการคลังได้มอบให้กับประชาชน นั่นก็คือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงถือว่าเป็นความคุ้มค่าที่มากกว่ารายได้ที่กรมธนารักษ์ควรจะได้รับเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ได้มอบเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกให้ผู้มารับมอบสัญญาในครั้งนี้ ตลอดจนแสดงความห่วงใยผู้ที่มาร่วมงานด้วยการแจกแอลกอฮอล์เจลขนาด 500 ml และหน้ากากอนามัยคนละ 1 กล่อง 50 ชิ้น ด้วย
ต่อมา นายยุทธนา ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมตลาดชุมชนตาม โครงการ “เปลี่ยนชุม เป็นห้องประชุม ในที่ราชพัสดุ” ตามแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ราษฎรได้มีพื้นที่ในการนำสินค้าท้องถิ่นมาจำหน่าย อันเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและมีรายได้ หมุนเวียนภายในชุมชน ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังได้มีนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยบูรณาการทำแผนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากให้เป็นรูปธรรม ตามแนวทางกลยุทธ์ 3 สร้าง คือ 1) สร้างความรู้ สร้างอาชีพ 2) สร้างตลาด สร้างรายได้ และ 3) สร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยในวันนี้มีร้านค้ามาร่วมในโครงการประมาณ 30 ร้านค้า
“กรมธนารักษ์จะยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองนโยบายในการลดความเหลื่อมล้ำของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” นายยุทธนา ย้ำ.