หนุน คปภ.ดึงรถยนต์รัฐ-ประชาชนเข้าระบบประกัน
กลุ่มประกันภัยออกโรงหนุน คปภ. เดินหน้าดึงรถยนต์ราชการล้านคันเข้าสู่ระบบประกันภัย ควบรณรงค์ให้ภาคประชาชนเข้าโครงการ “1 คน 1 กรมธรรม์” เชื่อกระตุ้นธุรกิจประกันภัยเติบโตได้มาก
รายการข่าวจากวงการประกันภัย ระบุถึงกรณี สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดย นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. มีแนวคิดจะรณรงค์ให้ส่วนราชการต่างๆ นำรถยนต์ในสังกัดเข้ามาทำประกันภัยรถยนต์ ภายใต้ พ.ร.บ.เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับภาครัฐ เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่มีการบังคับให้รถยนต์ของส่วนราชการต้องทำประกันภัย ดังนั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา รัฐบาลซึ่งเป็นผู้จัดหางบประมาณมาให้แก่ส่วนราชการ ก็ต้องจัดสรรงบประมาณส่วนนี้เอาไว้เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ หากแนวคิดของ คปภ. ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล ในฐานะผู้กำกับนโยบาย เชื่อว่ารถยนต์ในสังกัดส่วนราชการต่างๆ ทั้ง 19 กระทรวง และ 1 สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งบางกระทรวงมีหน่วยงานระดับกรมกองกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะมีรถยนต์ของส่วนราชการรวมกันไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน ที่อาจต้องเข้าร่วมโครงการประกันภัยครั้งนี้ อันจะส่งผลทำให้ภาพรวมของภาคธุรกิจประกันภัยเติบโตแบบก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเองก็ต้องเปิดทางให้บริษัทประกันในภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้ด้วย พร้อมกับวางมาตรการป้องกันมิให้มีการสมยอมกันระหว่างส่วนราชการและบริษัทประกันภัย
ก่อนหน้านี้ นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวสนับสนุนนโยบายของ คปภ. และยืนยันความพร้อมของภาคเอกชนที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ส่วนแนวทางหรือวิธีการจะทำอย่างไรนั้น ทุกฝ่ายกำลังศึกษาหาแนวทางอยู่ โดยช่วงแรกอาจเป็นลักษณะการให้ภาคธุรกิจประกันภัย เข้าไปให้บริการฟรีก่อน ทั้งในรถยนต์ของส่วนราชการ และให้บริการแก่ผู้ประสบภัย ทั้งนี้ เพื่อพิสูจน์ให้ส่วนราชการได้ให้เห็นว่าภาคธุรกิจ ประกันภัยสามารถเข้ามาช่วยดูแลเรื่องความเสี่ยงให้กับรัฐได้
รายงานข่าวระบุด้วยว่า อีกแนวของเลขาธิการ คปภ. ที่อยากให้ประชาชนเห็นความสำคัญในการทำประกันภัย เพิ่มขึ้น หรืออย่างน้อยมีประกันภัย ไว้ 1 คน 1 กรมธรรม์ เพื่อให้ระบบการประกันภัยได้เข้ามาช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงภัยให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่นั้น ถือเป็นเรื่องดีและจะมีส่วนกระตุ้นการดำเนินงานของภาคธุรกิจประกันภัยได้อย่างมาก ดังนั้น จึงอยากให้ คปภ.เร่งดำเนินการทั้งสองเรื่องโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ภาครัฐเองก็ต้องออกมาตรการสร้างแรงจูงใจเพื่อให้ประชาชนหันมาให้ความสนใจและเห็นความสำคัญของการทำประกันภัยครั้งนี้ด้วย.