แรงงานฟุ้ง! คุยคลังหวังดึงเงิน สปส.ตั้ง “รพ.-แบงก์”
รมว.แรงงาน ตบเท้าพบ “ขุนคลัง” ดึงแบงก์กรุงไทยช่วยรับลงทะเบียนโครงการเรารักกัน เน้นกลุ่มไร้สมาร์ทโฟน พร้อมหาช่องดึงเงินประกันสังคม 2.2 ล.ล.บาท บางส่วนมาใช้ตั้ง “โรงพยาบาลและแบงก์” เพื่อคนแรงงานทั้งในและนอกระบบ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวภายหลังเข้าหารือกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของผู้ประกันสังคม ตามมาตรา 33 ที่จะเข้าโครงการเรารักกัน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ซึ่งมีประมาณ 2-3 แสนคน ว่า เบื้องต้นจะใช้สาขาของธนาคารกรุงไทยและเครือข่ายของสำนักงานประกันสังคม เป็นจุดรับลงทะเบียน โดยยึดรูปแบบเดียวกับโครงการเราชนะ และใช้บัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดในการลงทะเบียนฯ ปัจจุบันมีคนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯแล้วประมาณ 80% จากผู้มีสิทธิทั้งหมดกว่า 9 ล้านคน
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางการใช้เงินกองทุนประกันสังคมที่มีมากกว่า 2.2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุนหลักๆ ของเงินกองทุนฯ ทั้งนี้ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนประกันสังคม และอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมาย เมื่อแล้วเสร็จจะนำเข้าสู่กระบวนการประชาพิจารณ์ ก่อนนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎรตามลำดับ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปีนับจากนี้
โดยหากสามารถแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนประกันสังคมได้ จะนำไปสู่การสร้างโครงการใหม่ๆ ตามมา เช่น การจัดตั้งโรงพยาบาลประกันสังคม เพื่อดูแลผู้ป่วยในกลุ่มแรงงานทั้งระบบ การจัดตั้งธนาคารแรงงาน เพื่อเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจให้กับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน รวมถึงการพิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดช่องให้มีการนำเงินกองทุนสำหรับดูแลผู้สูงอายุมาใช้ได้ก่อนถึงอายุ 55 ปี หลังจากที่คนกลุ่มนี้ต้องตกงาน
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข พ.ร.บ.แรงงานนอกระบบ ที่มีแรงงานนอกระบบมากกว่า 20 ล้านคน เพื่อจะได้ดูแลให้ครอบคลุมทั้งแรงงานในระบบและนอกระบบ และทำให้รัฐบาลมีข้อมูลมากพอสำหรับออกนโยบายและมาตรการในการดูแลแรงงานในประเทศไทยต่อไป
ด้าน นายอาคม กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ได้หารือกับนายสุชาติถึงแนวทางแก้ไขปัญหาการรับลงทะเบียนของโครงการเรารักกัน ซึ่งกระทรวงการคลังพร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนแนวทางการแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนประกันสังคม เพื่อนำเงินกองทุนฯไปใช้ในภารกิจต่างๆ ของกระทรวงแรงงานนั้น ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่อง เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นของกระทรวงแรงงานเท่านั้น.