รัฐหนุนเว็บไทยเทรดกระตุ้นการค้าอีคอมเมิร์ช
รัฐหนุนอีคอมเมิร์ช ดันพาณิชย์ต่อยอดเว็บ Thaitrade.com ขึ้นชั้นศูนย์กลางการค้าออนไลน์ “สมคิด” ชี้เอื้อโอกาสธุรกิจให้เอสเอ็มอีไทย พร้อมอัดงบปีหน้า 4 แสนล้าน หวังเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันของไทย ด้านรมว.พาณิชย์ มั่นใจธีม “Thaitrade Shop ช้อปครบจบในคลิกเดียว” กระตุ้นการค้าออนไลน์ เชื่อ “แพล็ตฟอร์ม มาร์เก็ตเพลส” เปลี่ยนการรุกของเว็บระดับโลกมาเป็นพันธมิตรการค้าออนไลน์กับไทย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยสูญเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากปัญหาต่างๆ ดังนั้น การกลับเข้าสู่ความเป็นรัฐบาลสมัยที่ 2 นี้ ตนจึงมองเห็นโอกาสในการแก้ปัญหาของประเทศ แต่ต้องมองให้ออกว่า อะไรคือปัญหาที่แท้จริง และอนาคตของประเทศอยู่ตรงจุดไหน แล้วก้าวไปสู่จุดนั้นอย่างมีเป้าหมาย
“หากจะดูผลงานของรัฐบาลชุดนี้ คงต้องเทียบตัวเลขเศรษฐกิจหลักๆ กับเมื่อ 4 ปีก่อนหน้านี้ จะเห็นชัดว่าตัวเลขเศรษฐกิจของไทยวันนี้ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าตลาดรวม การส่งออก การลงทุน การบริโภคภายในประเทศ ราคาสินค้าการเกษตร รวมถึงจีดีพีที่ปีนี้คงเติบโตในระดับที่พอใจ ซึ่งทั้งหมดได้สะท้อนความเชื่อมั่นของทุกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด”
นายสมคิดย้ำว่า จากนี้ไปรัฐบาลจะเน้นการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยในปีงบประมาณหน้า รัฐบาลจะมีงบสูงถึง 400,000 ล้านบาทเพื่อนำมาใช้ในภารกิจนี้ ซึ่งจะพุ่งเป้าไปที่การสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทยในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับนโยบายถึงการปฏิบัติ รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงโอกาสในการแข่งขันบนเวทีระดับโลก เพื่อสร้างการแข่งขันที่ยั่งยืน ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มในตัวสินค้า
ควบคู่ไปกับการสร้างอนาคตใหม่ๆ แก่อุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะเป็นตัวสะท้อนนโยบายของรัฐบาลและดึงดูกนักลงทุนต่างชาติ ว่ารัฐบาลต้องการพัฒนาประเทศไปในทิศทางใด
สำหรับการค้าออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ชนั้น ตนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ดังนั้น การที่กระทรวงพาณิชย์ได้ต่อยอดเว็บไซต์ Thaitrade.com โฉมใหม่ จึงถือเป็นการสร้าง “ศูนย์กลางการค้าออนไลน์ของประเทศ” (Nation e-Marketplace Platform) ให้กับผู้ประกอบการไทยในการทำตลาดออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ไทยจำเป็นต้องมีแพลตฟอร์ม มาร์เก็ตเพลสที่เข็มแข็งเป็นของตัวเอง ไม่เพียงจะใช้เป็นเครื่องมือส่งเสริมและสนับสนุนการทำตลาดอีคอมเมิร์ชแก่ผู้ประกอบการไทย หากยังใช้ป้องกันการรุกหนักเข้าไทยของเว็บไซต์ชั้นนำระดับโลก รวมถึงใช้เป็นตัวเชื่อมกับเว็บไซต์เหล่านี้ในการทำตลาดบนโลกออนไลน์ร่วมกันอีกด้วย
สำหรับบริการใหม่ของ Thaitrade.com นี้ ยังมีสิ่งที่เรียกว่า “Thaitrade Shop ช้อปครบจบในคลิกเดียว” ถือเป็นบริการส่งเสริมการขายสินค้าคุณภาพจากผู้ผลิตโดยตรง ในรูปแบบ B2C (การขายตรงสู่ผู้บริโภค) ภายในประเทศ ซึ่งจะมีระบบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิตทุกธนาคาร รวมถึงระบบเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดให้ e-Marketplace ต่างๆ ของไทย เพื่อเชื่อมต่อระบบและแสดงผลในลักษณะ Featured Store ซึ่งผู้ซื้อสามารถค้นหาสินค้าจากหลายแพลตฟอร์มในคลิกเดียว อันจะสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ช รวมถึงใช้เทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าการค้า นำไปสู่มิติใหม่ของการขายสินค้าที่ต้องรวดเร็วและทันต่อความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
“สิ่งนี้จะสร้างความได้เปรียบให้กับภาคธุรกิจรายย่อยในการแสวงหาช่องทางการทำการตลาดใหม่ๆสอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาลที่พยายามผลักดันให้คนตัวเล็กอย่าง MLMEs (วิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม และรายย่อย) และเกษตรกร ได้มีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคทั้งในและนอกประเทศ ผ่านเว็บไซต์ Thaitrade.com” นายสนธินรัตน์ กล่าวในที่สุด.