“อาคม”ฝาก ก.ล.ต.ดูแล 5 ปม! เข้มคุมบิทคอยน์
“อาคม” ฝากงาน ก.ล.ต. ดูแลเข้มตลาดทุน ย้ำ! ให้ความรู้นักลงทุนเรื่อง “บิทคอยน์” เหตุเป็นเรื่องใหม่ อาจส่งผลกระทบต่อตลาดทุนได้ เผย! คลังยังเร่งสร้าง 3 ภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจ “ระดับชาติ – เอกชน – ประชาชน” ที่รับผลกระทบจากพิษโควิดฯ พร้อมปรับโครงสร้างภาษีใหม่ อิง “สาธารณสุขแลสิ่งแวดล้อม”
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวระหว่างเปิดงานสัมมนา “บทบาทตลาดทุนกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศปี 2564” จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า มีเรื่องที่อยากให้ ก.ล.ต. ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลตลาดทุน ดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องใหม่ของการลงทุนระดับโลก คือ (1) คริปโตเคอเรนซี่ หรือสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิทคอยน์ ที่เริ่มมีบทบาทเข้ามาอยู่ในตลาดจึงต้องดูแลให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการบริหารความเสี่ยง การให้ความรู้กับนักลงทุน เพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงมากเกินไป เพราะอาจกระทบกับตลาดทุนได้
นอกจากนี้ (2) ก.ล.ต.ต้องเข้าไปดูแลและอำนวยความสะดวกให้กิจการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ รวมถึง (3) ส่งเสริมให้บริษัทใหม่ๆ เข้าถึงตลาดทุนได้ พร้อมกันนี้ (4) ยังต้องยกระดับความเชื่อมั่นเสริมศักยภาพตลาดทุน เน้นวางรากฐานด้านข้อกฎหมาย และกฎระเบียบ เพื่อให้ตลาดมีความมั่นคง รวมถึง (5) ร่วมพัฒนาระบบการเงินที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม
ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาไวรัสโควิด-19 นั้น รมว.คลัง ย้ำว่า มีผลกระทบบ้าง แต่ไม่มากเท่ากับปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลรัฐบางมีประสบการณ์และสัญญาณของวัคซีนที่จะทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้เกิดความเชื่อมั่น และอาจส่งผลดีต่อการเดินทางระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามในการกำหนดแนวทางบริหารจัดการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
นายอาคม ยังย้ำถึง ภูมิคุ้มกันด้านเศรษฐกิจ คือ การรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ให้ขยายตัวต่อไปอย่างมั่นคง สร้างทุนสำรองระหว่างประเทศ ทำฐานะการคลังให้มั่นคง และบริหารจัดการหนี้ของประเทศได้ และต้อง ดูแลภาคเอกชนให้สามารถอยู่ได้ ภายใต้การบริหารความเสี่ยงและหลักธรรมาภิบาล รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึง ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเยียวยาต่างๆ ที่ได้ออกมาก่อนหน้านี้และกำลังดำเนินการในปัจจุบัน
“ผมเชื่อว่าวัคซีนทั้ง 3 ตัว ประกอบด้วย วัคซีนระดับเศรษฐกิจมหภาค ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน จะมีส่วนสำคัญช่วยสร้างให้ระบบเศรษฐกิจของไทยเติบโตได้อย่างมั่นคง มีเสถียรภาพและเติบโตอย่างยั่งยืน” นายอาคม ย้ำและว่า
รัฐบาล โดย กระทรวงการคลัง กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ โดยเน้นเรื่องสังคม สุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้มากขึ้น รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าสู่ภาวะ “สังคมไร้เงินสด” ผ่านโครงการ/มาตรการต่างๆ ของรัฐ ไม่ว่าเป็น เราไม่ทิ้งกัน ชิมช็อปใช้ เราเที่ยวด้วย คนละครึ่ง และล่าสุด คือ โครงการเราชนะ