ธนารักษ์จัดให้! “บ้านพร้อมเงิน” แลกขนย้ายบุกรุกที่ราชฯ
“บิ๊ก’หยิม” นำทีมผู้บริหารกรมธนารักษ์ ลงพื้นที่ “วังค้างคาว” และที่ราชพัสดุใกล้เคียง ย่านคลองสาน หวังเคลียร์ปม “ทางเข้า-ออก” และ “ที่ดินถูกบุกรุก” ก่อนเปิดให้เอกชนเช่าระยะยาวเพื่อพัฒนาเชิงพาณิชย์ ส่งรายได้เข้ารัฐรวมกว่า 150 ล้านบาท เผย! เตรียมเจรจาการเคหะฯ หาที่พักให้ชาวบ้าน 30 ครัวเรือน พร้อมค่าเงินย้ายและพ๊อกเก็ตมันนี่ คาดเริ่มเปิดประมูล เม.ย.-พ.ค.นี้
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ ตรวจสภาพอาคารราชพัสดุบ้านพระประเสริฐวาณิช (เขียว) หรือวังค้างคาว ปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.2723 (บางส่วน) โฉนดเลขที่ 3249 แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ทั้งแปลง 0 – 3 – 29 ไร่ และแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.0580 โฉนดเลขที่ 1001 เนื้อที่ตามโฉนด 1 – 2 – 13 ไร่ (เนื้อที่ตามสภาพครอบครอง 1 – 2 – 16 ไร่) ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน โดยกรมฯมีแผนจะเปิดประมูลให้เอกชนที่สนใจเข้ามาพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์
โดยย้ำว่า บริเวณพื้นที่วังค้างคาวไม่มีปัญหาเรื่องการบุกรุกจากประชาชน และกรมฯได้ประสานเรื่องการจัดสร้างถนนเข้าออก โดยใช้ที่ดินเอกชนที่อยู่ติดกัน และมีภาระจำยอม โดยพร้อมจัดแบ่งพื้นที่สำหรับทำถนนเข้า-ออกแล้ว เชื่อว่าจะเปิดประมูลได้ภายในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม 2564 เบื้องต้น และคาดว่าจะมีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ 30 ปี สามารถต่ออายุสัญญาเช่าได้ ไม่ต่ำกว่า 50-60 ล้านบาท
“ทำเลในพื้นที่ถือว่าดีมาก เพราะอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะที่เอกชนจะนำไปทำเป็นร้านอาหารริมน้ำ แต่จะต้องหารือกับกรมศิลปกร เพื่อจะได้คงศิลปะร่วมสมัยและสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม เพื่อการอนุรักษ์ควบคู่กันไป” อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุ
ขณะที่ พื้นที่แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.0580 โฉนดเลขที่ 1001 ยังมีปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดิน โดยมีครอบครัวของประชาชนที่บุกรุกฯราว 30 ครอบครัว หรือราว 100 คน ซึ่งกรมฯวางแผนจะเจรจาเพื่อให้มีการขนย้ายออกนอกพื้นที่ คาดว่าจะสามารถเจรจรได้เร็วๆ นี้
ทั้งนี้ เบื้องต้น กรมฯจะหารือกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เพื่อจัดเตรียมห้องชุดสำหรับพักอาศัยในทำเลต่างๆ ส่งมอบให้กับประชาชนที่บุกรุกที่ราชพัสดุแปลงนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมกับจ่ายเงินค่าขนย้ายฯและเงินสำหรับดำเนินชีวิตในอนาคตอีกจำนวน แลกเปลี่ยนกับการย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเมื่อที่ดินแปลงนี้ ไม่มีภาระเรื่องการถูกบุกรุกแล้ว เชื่อว่าจะสร้างรายได้ส่งให้รัฐไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ กรมฯยังตั้งเป้าหมายที่จะเดินหน้าโครงการพัฒนาอาคารราชพัสดุทรงคุณค่าให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2564 นอกจากอาคารราชพัสดุแปลงบ้านพระประเสริฐวาณิช (เขียว) หรือ วังค้างคาว เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ที่อยู่ระหว่างการรังวัดตรวจสอบแนวเขตและหารือกับกรมศิลปากรเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาแล้ว ยังมี อาคารบ้านพายัพ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ที่เปิดประมูลแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาผลการคัดเลือกผู้ประมูล โดยกรมธนารักษ์จะได้รับค่าธรรมเนียมการจัดให้เช่าขั้นต่ำ เป็นเงิน 1,745,460 บาท ค่าเช่าในอัตราเดือนละ 57,273 บาท หรือปีละ 687,276 บาท รวมระยะเวลา 5 ปี เป็นเงิน 3,436,380 บาท
และ อาคารบ้านขุนพิทักษ์บริหาร (บ้านเขียว) อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ระหว่างกรมศิลปากรกำหนดรูปแบบในการประมูลพัฒนา เป็นต้น โดยโครงการดังกล่าวนอกจากจะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในเชิงเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งเสริมการอนุรักษ์อาคารที่ยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม หรือสถาปัตยกรรมให้คงอยู่สืบไปด้วย
อนึ่ง นอกจาก นายยุทธนาแล้ว ยังมี น.ส.สุภัทรา ส่องประทีป ผอ.กองพัฒนาธุรกิจและศักยภาพที่ราชพัสดุ นายคณาวุฒิ สิติธีรพันธุ์ ผอ.กองบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร นายบุญชอบ วิเศษปรีชา ผอ.กองพัฒนาและบำรุงรักษาอาคารราชพัสดุ และคณะ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสภาพฯ ในครั้งนี้ด้วย.