กรมศุลกากรออก 3 มาตรการพิเศษสู้โควิดฯ
กรมศุลกากรออก 3 มาตรการพิเศษ หวังช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ระลอกใหม่
รายงานข่าวจากกรมศุลกากร แจ้งว่า กรมศุลกากรตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ระลอกใหม่ จึงออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ รวม 3 มาตรการ ดังนี้
1. การอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถใช้สำเนาภาพถ่ายหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อขอใช้ผ่อนผันในการปฏิบัติพิธีการศุลกากรยกเว้นอากรและลดอัตราศุลกากร ภายใต้เขตการค้าเสรี โดยจะต้องยื่นต้นฉบับรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าตัวจริง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ตรวจปล่อยสินค้าออกจากอารักขาศุลกากร หากไม่สามารถนำต้นฉบับมาแสดงภายในกำหนดเวลาดังกล่าว เนื่องจากติดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID – 19 ) ให้ยื่นคำร้องล่วงหน้าก่อนครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวไม่น้อยกว่า 7 วันทำการ เพื่อทำการขยายระยะเวลา ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวมีผลจนกระทั่ง วันที่ 31 มีนาคม 2564 ตามประกาศกรมศุลกากรที่ 203/2563 เรื่อง การแสดงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า สำหรับผู้นำของเข้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ลงวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2563
2. การขยายเวลาการอนุญาตตัวแทนออกของ / ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการออกของที่หมดอายุตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 – 30 มิ.ย. 2564 ให้หมดอายุในวันที่ 30 มิ.ย. 2564 โดยสามารถยื่นคำขอต่ออายุได้ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป ตามประกาศกรมศุลกากรที่ 204/2563 เรื่อง มาตรการตัวแทนออกของและผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการออกของ ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2563
และ 3. การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการปฏิบัติพิธีการศุลกากรในการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อให้การจัดทำข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า และการยกเว้นอากรศุลกากรเป็นไปด้วยความถูกต้อง ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อการรักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563 โดยประกาศนี้มีผลบังคับใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 ตามประกาศกรมศุลกากรที่ 22 /2564 ลงวันที่ 29 มกราคม 2564
ทั้งนี้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.customs.go.th หรือ สายด่วน 1164.