ราษฎรยื่น 3 ข้อเรียกร้องรัฐบาลผ่าน ก.คลัง
กลุ่มราษฎร ยื่น 3 ข้อเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งช่วยเหลือประชาชน พร้อมตัดงบส่วนที่ไม่สำคัญและจำเป็นออกไป เผย! ลงทะเบียนคนละครึ่ง “รอบเก็บตก” เต็มเร็ว สะท้อนความล้มเหลวนโยบายรัฐ
แกนนำกลุ่มราษฎรและแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดย นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ได้เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกจากราษฎร ถึง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง โดยมี น.ส.เฉลิมรัตน์ อิ่มนุกูลกิจ ผอ.ส่วนบริหารการพัสดุ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง มารับจดหน้าเปิดผนึกแทนฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 มกราคม 2546
โดยก่อนหน้านี้ แกนนำกลุ่มราษฎรได้อ่านแถลงการณ์ให้ผู้สื่อข่าวทราบถึงเจตนารมณ์ของการยื่นจดหมายเปิดผนึก โดยขอให้รัฐบาลลดงบประมาณที่จัดสรรให้คนชั้นนำและกองทัพ เพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชนในยามฉุกเฉิน ความว่า…
เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันได้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ระลอกสองในประเทศ ก่อให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง ส่งผลให้พี่น้องประชาชนต้องประสบความทุกข์ยากอย่างใหญ่หลวง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกลับไม่สามารถช่วยเหลือเยียวยาประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้ว่า มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากเข้าไม่ถึงเงินเยียวยาจากโครงการคนละครึ่งเฟสสอง ทั้งจากที่ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และจากที่ประชาชนต้องแย่งชิงกันลงะเบียนรับสิทธิจากโครงการดังกล่าวจนสิทธิเต็มในเวลาไม่ถึงห้านาที
เหตุเหล่านี้ลวนเป็นข้อตอกย้ำว่า มาตรการเยียวยาประชาชนของรัฐบาลล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้ กลุ่มราษฎรได้เสนอแนะให้ รมว.คลัง พิจารณาตัดลงงบประมาณที่สูงเกินความจำเป็น ไม่เหมาะสมแก่เวลา หรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์สาธารณะ และนำมาใช้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชน ดังต่อไปนี้
1.เยียวยาประชาชนอย่างถ้วนหน้าเท่าเทียม โดยให้รัฐเยียวยาประชาชนผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ด้วยเงินรายได้พื้นฐานถ้วนหน้า เดือนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยมาตรการดังกล่าวจะใช้งบประมาณราว 525,000 ล้านบาท หากตัดลดและโยกย้ายงบที่ไม่จำเป็นข้างต้น รวมกับงบประมาณที่คงเหลือจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ ก็จะมีงบประมาณเพียงพอเยียวยาประชาชนได้อย่างถ้วนหน้า
2.นำเข้าและกระจายวัคซีนโควิด-19 แก่ทุกคนอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และทันท่วงที และเป็นการควบคุมการแพระกระจายของโรคและเสริมสร้างความมั่นใจและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
3.ลดหรือช่วยอุดหนุนค่าครองชีพของประชาชน ทั้งค่าสาธารณปโภค ค่าไฟฟ้า ค่าประปา ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าโดยสาร อย่างน้อยเป็นเวลา 3 เดือน และสำหรับนักเรียน นักศึกษาจะตัองมีการลดค่าเล่าเรียน พร้อมท้ังช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเรียนออนไลน์ด้วย
นายภาณุพงศ์ ย้ำด้วยว่า การบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนทั่วประเทศ ย่อมสำคัญกว่าการสิ่งอื่นที่ไม่ได้ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงขอให้รัฐบาลตัดสินใจโดยถือประโยชน์ของคนส่วนมากเป็นหลัก.