คลอด พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ ฉบับใหม่
คลังได้ฤกษ์เสนอพ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ แก้ไขทั้งหมด 17 มาตรการ เข้า ครม.ผ่อนคลายและปรับปรุงให้มีความเหมาะสมรวมถึงรถรองรับสลากออนไลน์ในอนาคต เดินตามประกาศ คสช.11/2558 จับและปรับจริงพ่อค้าขายสลากเกินราคา
นายบุญทรง จันทร์ศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับใหม่แล้ว อยู่ระหว่างรอส่งเรื่องให้สำนักงานกฤษฎีกาตีความ
ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว คือ การปรับปรุง พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ ฉบับเก่าที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2517 ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาใน 17 ประเด็น ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการปรับคำนิยามเนื่องจากมีการเพิ่มกองทุนพัฒนาสังคมเข้าไป นอกจากนี้ยังมีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการฯ ให้มีอำนาจหน้าที่การจัดสรรเงินรายได้ตามมาตรา 22 รวมถึงรางวัลสมทบของกองสลากที่เตรียมรองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ และเพิ่มบทกำหนดโทษกรณีจำหน่ายสลากเกินราคา จากเดิมที่มีโทษปรับเพียงสถานเดียว เป็นมีโทษทั้งจำคุกไม่เกิน 1 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท รวมถึงการห้ามจำหน่ายสลากในสถานศึกษา หรือจำหน่ายสลากให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีคำสั่ง คสช.ที่ 11/2558 มีการปรับแก้ไข พ.ร.บ.บางส่วน เช่น การจัดสรรรายได้ซึ่งยังคง 60% เป็นเงินรางวัล 22% เป็นรายได้ส่งรัฐ อีก 17% เป็นการบริหารจัดการ (ซึ่งใน 17% นี้แบ่งเป็นการบริหารจัดการของสำนักงานฯ 3% และ 14% เป็นส่วนลดของตัวแทนรายย่อย) และที่เหลือ 1% เป็นสัดส่วนของกองทุนพัฒนาสังคมใช้จ่ายได้ในกรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้พัฒนา แก้ไขปัญหาการพนัน ศึกษาวิจัยผลกระทบจากการพนัน แก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ซึ่งที่ผ่านมามีการนำไปใช้สนับสนุนการวิจัยผลกระทบของการพนัน นำไปสนับสนุนการพัฒนาประเทศตามวัตถุประสงค์ในคำสั่ง คสช.ซึ่งตอนนี้ได้ยกวัตถุประสงค์ทั้งหมดมาไว้ใน พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้
“ข้อแตกต่างของ พ.ร.บ.ฉบับเก่าและใหม่คือ สัดส่วน 14% ที่เป็นส่วนลดของตัวแทนรายย่อยนั้น ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับเก่าให้แค่ 7% แต่ฉบับใหม่เพิ่มเป็น 12% และอีก 2% เป็นของสมาคมองค์กรต่างๆ..เมื่อก่อนรายย่อยขายใบละ 80 บาท ได้ 5.60 บาท แต่หลังจากนี้ใบละ 80 บาท ได้เพิ่ม 9.60 บาท อย่างน้อยทำให้ผู้ค้ารายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้น…นอกจากนี้ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ยังเพิ่มในส่วนที่เป็นสัดส่วนของกองทุนพัฒนาสังคม 1% เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งของ คสช.ก่อนหน้านี้” นายบุญทรง กล่าว
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่เตรียมรองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งเป็นสลากสมทบ ซึ่งหลังจากนี้จะศึกษาว่าจะเป็นรูปแบบใด ศึกษาผลกระทบด้านใดบ้าง มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ได้เสียอย่างไร ซึ่งอาจจะเป็นทางเลือกของประชาชนระหว่างสลากแบบที่มีอยู่กับสลากสมทบ เช่น สลากออนไลน์ การขายสลากผ่านเครื่อง ซึ่งยังต้องไปศึกษารอบด้านว่าจะมีผลกระทบกับใครบ้าง
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ตลาดมีความต้องการสลากรวมชุด กำลังมีการรวบรวมความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียว่าถ้าจะทำรวมชุดจะทำรูปแบบใด เช่น สลาก 5 ใบ 400 บาท เพื่อนำมาผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งวิธีนี้จะแก้ปัญหาให้ผู้ค้ารายย่อยที่อยากขายสลากรวมชุดแต่ไม่มีสินค้า ทำให้ต้องไปซื้อมาจากพ่อค้าคนกลาง
นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ ยังได้เสนอให้มีการแก้ไขพ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานทั้งปัจจุบันและในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องการจำนวนการพิมพ์สลากฯ และการกำหนดรูปแบบสลากใหม่ๆ ซึ่งเนื้อหาของพ.ร.บ.ฉบับใหม่จะระบุชัดเจนว่าเรื่องดังกล่าวว่า เป็นอำนาจของคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ (บอร์ด) ไม่ต้องโยนกันไปมาระหว่างสำนักงานสลากฯ และกระทรวงการคลัง ซึ่งขณะนี้ สำนักงานสลากฯ อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดจากประชาชน กรณีที่สำนักงานสลากฯ จะพิมพ์สลากเลขชุด 5 ใบ โดยจะจำหน่ายใบเดียวราคา 400 บาท หรือชุด 5 ใบ ราคา 400 บาท โดยจะเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชน ผู้ค้าและเอ็นจีโอ จนถึงเดือนมิ.ย.หลังจากจะรายงานผลให้ประชุมบอร์ดรับทราบต่อไป
สำหรับการแก้ไขพ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ ครั้งนี้ หลังจาก ครม.มีมติเห็นชอบแล้ว ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาจากกฤษีกาและต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือน ส่วนแนวคิดที่จะออกสลากรูปแบบใหม่เช่น สลากออนไลน์ เป็นต้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบอร์ดเป็นหลัก
ส่วนราคาสลากงวดล่าสุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ยอมรับว่ายังคงมีราคาแพงโดยพ่อค้าสลากบางเจ้ามีการขายเลขชุด 2 ใบ ราคา 200 บาท และชุด 5 ใบ ราคา 500 บาทหรือขายราคาใบละ 100บาท มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากขึ้นซึ่งล่าสุดได้สั่งให้เพิ่มความเข้มงวดในการจับกุมผู้ค้าสลากเกินราคาให้มากขึ้น แม้ว่า กฎหมายจะยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่สำนักงานสลากฯ ก็สามารถใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่11/2558 ในการจับกุมและลงโทษผู้กระทำความได้.