“ประสงค์”ใหญ่จริง… นั่งปลัดคลัง
ครม.ย้ายใหญ่คนคลัง กลางปีงบประมาณ2561 หลังจากปลัดอู้ (สมชัย) ลาออก ไฟเขียว “ประสงค์” นั่งปลัดกระทรวง การคลังพร้อมตั้ง “เอกนิติ” เป็นอธิบดีกรมสรรพากร โปรโมทคนหนุ่ม แต่ม้ามืด แซงหน้าทุกคนคือ “ภูมิศักดิ์” จากผู้ตรวจขึ้นแท่น ผอ.สบน.ลือหึ่งหลานสมคิดได้ดี
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้(17เม.ย.)มีมติแต่งตั้งให้นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากรดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่แทนนายสมชัย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการ คลังที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ โดยนายประสงค์ถือว่า มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ทั้งในแง่อายุราชการและการบริหารงานหน่วย งานในสังกัดกระทรวงการคลัง
โดยอายุราชการนั้น นายประสงค์มีอายุราชการเหลือประมาณ 2 ปีครึ่งก่อนเกษียณ โดยในเดือนมิ.ย.นี้ นายประสงค์จะนั่งในตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากรครบ 4 ปี ก็ต้องเสนอให้ ครม.นั่งต่อในตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากรปีต่อไป หรือย้านไปนั่งที่อื่น แต่เนื่องจาก นายประสงค์เคยดำรงตำแหน่งหน่วยงานสำคัญๆ หลายแห่ง เช่น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐ วิ สาหกิจ กรมศุลกากรและกรมสรรพากร จึงมีทั้งความรู้และประสบการณ์
นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติแต่งตั้งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) ย้ายเป็นอธิบดีกรมสรรพากรแทนนายประสงค์ โดยนายเอกนิตินั้น แม้จะไม่เคยผ่านงานด้านการจัดเก็บรายได้ ก็ถือว่า มีคุณสมบัติที่เหมาะสม เนื่องจาก เคยทำงานในสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลนโยบายการจัด เก็บรายได้เช่นกัน
สำหรับบุคคลที่เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ สคร.นั้น ครม.มีมติแต่งตั้งให้นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เข้ารับตำแหน่งแทน และแต่งตั้งให้นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงการ คลังเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ สบน.
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า การเสนอชื่อนายประสงค์ เป็นปลัดกระทรวงการคลังถือว่า มีความเหมาะสมเพราะมีทั้งความรู้และความอาวุโส จึงมั่นใจว่า จะสามารถทำงานในตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังได้ทันที ส่วนตำแหน่งอื่นๆ นั้น ยอมรับว่า นายเอกนิติ อายุยังน้อยไม่ถึง 50 ปี แต่ต้องมานั่งในตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากรถือว่า มีความสำคัญมาก ถือเป็นการโปรโมทคนหนุ่มให้ขึ้นมารับหน้าที่สำคัญๆ ของกระทรวงการคลัง หลังจากรับตำแหน่งผู้อำนวยการ สคร.มาหลายปีและมีผลงานมากมาย
ส่วนนายประภาศนั้น ที่รับตำแหน่งผู้อำนวยการ สคร.ไม่ใช่ทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการสบน.ไม่ได้ แต่ต้องการนายประ ภาศ ซึ่งมีความรู้ทางด้านกฎหมายดี จะเข้ามาสานงานต่อทางด้านกฎหมายให้แก่ สคร.ได้ จึงย้ายจากผู้อำนวยการ สบน. มาเป็นผู้อำนวยการ สคร. ขณะที่นายภูมิศักดิ์ จากผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลังเป็นผู้อำนวยการ สบน.นั้น ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เป็นคนมีความรู้และความสามารถเหมาะสมที่นั่งตำแหน่งผู้อำนวยการ สบน.ได้ ส่วนกระแสข่าวลือว่า นายภูมิศักดิ์ เป็นหลายแท้ๆ ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตนไม่ทราบ ส่วนที่ไม่ย้ายนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เพราะต้องการให้ปราบปรามเรื่องการทุจริตภายในองค์กรต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา ถือว่า ทำได้ดีแล้ว แต่มีบางเรื่องที่รับปากไว้ ยังทำไม่สำเสร็จ ในปีนี้ก็ต้องวัดฝีมือว่าจะทำได้หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องอำนวยความสะดวกผู้ประกอบ การ ซึ่งจะมีผลต่อการวัดผลความยากง่ายต่อการดำเนินธุรกิจ หรือ Doing Business ของธนาคารโลก
อย่างไรก็ตาม ในเดือนก.ย.นี้ จะมีการโยกย้ายประจำปีอีกครั้ง โดยในปีนี้ นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการ สศค.ซึ่งเป็นข้าราชการระดับ 10 จะเกษียณอีก 1 คน เมื่อถึงเวลานั้น ก็จะต้องพิจารณาว่า ใครจะมีความเหมะสมนั่งในตำแหน่งผู้อำ นวยการ สศค.คนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า หลังจากที่นายสมชัยได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังไปแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสมชัย ได้เดินทางเข้ากระทรวงการคลังเพื่อเก็บของใช้ส่วนตัวที่สำนักงานปลัด กระทรวงการคลังอย่างเงียบๆ โดยไม่มีข้าราชการให้การยื่นเข้าแถวอำลาเหมือนกับปลัดกระทรวงการคลังคนที่ผ่านมา เนื่องจากวันที่ 16 เม.ย.เป็นวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ พร้อมกับลาออกจากกลุ่ม LINE สื่อมวลชนประจำกระทรวงการคลัง
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแต่งตั้งนายทศพร ศิริสัมพันธ์ ไปรับตำแหน่ง เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แทนนายปรเมธี วิมลศิริ ที่จะโยกย้ายไปนั่งเป็นปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
อนึ่ง ที่ประชุม ครม.ครั้งก่อนได้อนุมัติให้นายนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ไปดำรงแหน่งเลขาธิการ สภาพัฒน์ แต่นายสมชัยได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ในการโอนย้ายเพื่อให้นายทศพร เข้ามาช่วยสานต่องานที่นายปรเมธีทำไว้ในการขับเคลื่อนยุทธ ศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ อาทิ ปฎิรูปกฎหมาย ความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ เป็นต้น การยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันและดัชนีต่างๆ ซึ่งเป้นผลงานของนายทศพร ในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้เพื่อปฏิรูปสภาพัฒน์ให้เป็น Think Tank อย่างแท้จริง ซึ่งจะถือเป็นผลงานที่สำคัญอีกเรื่องของรัฐบาล
“ตั้งใจโอนย้ายมาดำเนินการในจุดนี้ แม้นายทศพร จะไม่เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเหมือนนายสมชัย แต่สภาพัฒน์ไม่ได้เน้นเศรษฐกิจอย่างเดียว งานครอบคลุมหลายมิติ ซึ่งในด้านเศรษฐกิจจะมีทีมงานช่วย” นายกอบศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ สำนักงาน ก.พ.ร.ขอรับโอนนายปกรณ์ นิลประพันธ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร.แทน.