แรงงานติดโควิด แจ้ง จนท.ห้ามเคลื่อนย้าย
สุริยะฯ เตือน ผู้ประกอบการ ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกนอกพื้นที่ พร้อมสั่งเข้มสถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าว ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด – 19
จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับสถานประกอบการในพื้นที่สมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่มีการะบาดของโรคโควิด-19 ขนย้าย หรือนำแรงงานต่างด้าวไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ เนื่องจากเกรงกลัวความผิด นั้น
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.บอกว่า กรณีดังกล่าวสันนิษฐานว่าอาจจะมีการใช้แรงงานผิดกฎหมาย เมื่อจะมีการตรวจสอบผู้ประกอบการเกรงกลัวความผิดและขนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัด กรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจเข้ม เฝ้าระวัง ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะโรงงานที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว เพื่อให้ความช่วยเหลือและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ตรวจสอบ คัดกรอง หาผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง รายงานจำนวนสถานประกอบการที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว โดยประสานข้อมูลอย่างใกล้ชิดกับแรงงานจังหวัด
และยังได้ย้ำเตือนผู้ประกอบการ อย่าตระหนก อย่าเกรงกลัวความผิด หากฝ่าฝืนโทษจะยิ่งหนักกว่าหลายเท่า และไม่ให้มีการดำเนินการใดๆ ที่เป็น การขนย้ายแรงงานออกนอกโรงงานโดยเด็ดขาด ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์และสุ่มเสี่ยง การแพร่ระบาดมากขึ้น จึงขอเตือนผู้ประกอบการจะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ในการดูแลแรงงานของตนอย่างดีตามหลักมนุษยชนพร้อมปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเข้มข้น สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันที่สำคัญที่สุด
และหากมีแรงงานในสถานประกอบการติดเชื้อ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการสอบสวนโรคตามขั้นตอนว่าไปสถานที่ใด พบปะกับใคร และกักกัน(quarantine) ไม่ให้ออกนอกพื้นที่ และเข้าสู่กระบวนการรักษาตามหลักสาธารณสุข เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโรคลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ถ้าประชาชนทุกคนมีสุขอนามัยที่ดี มีการป้องกันตนเองอย่างเข้มงวดทุกอย่างและเราจะผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ในเร็ววัน
ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ประธานอนุกรรมาธิการเพื่อการศึกษา ติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ (โควิด-19) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสถานประกอบการขนาดเล็กที่ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม หากมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้แรงงานต่างด้าว ไม่ถูกกฎหมาย ไม่ต้องวิตก กังวลหรือกลัวความผิด ด้วยการขนย้ายแรงงานไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ สามารถขอความช่วยเหลือและแนะนำจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคโควิด-19 ได้อีกทางหนึ่งด้วย