อีอีซี เตรียมอัดเคมเปญใหญ่ ส่งเสริม อุตฯหุ่นยนต์
อีอีซี เตรียมออกเคมเปญใหญ่ ผลักดัน โรงงานอุตสาหกรรม นำใช้ หุ่นยนต์และระบบออโตเมชั่น มาใช้ในขบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แก้ไขปัญหาแรงงาน นำร่อง 50 SME ปี 64
นายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธาน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) กล่าวในงานสัมมนา “JETRO Robot Automation Seminar” ที่จัดร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี ว่า การลงทุนด้านอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และออโตเมชั่น ใน ประเทศไทยมีการลงทุนจากผู้ประกอบการญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก การนำอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และออโตเมชั่นมาช่วยอำนวยความสะดวกนั้น เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญในอนาคต
นอกจากยังแสดงความเห็นว่า การนำหุ่นยนต์และออโตเมชั่นเข้ามาใช้ในการทำงาน จะช่วยเพิ่มคุณภาพสินค้าและประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงอำนวยความสะดวกในด้านสภาพแวดล้อมการทำงาน และแก้ไขการขาดแรงงานได้อีกด้วย
“เราจำเป็นต้องเข้าใจในราคาและบทบาทที่สำคัญของหุ่นยนต์ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของ System Integrator เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นเดียวกัน”
ด้าน ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาฯ สกพอ. กล่าวว่า อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ทาง สกพอ. ต้องการผลักดัน ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในเวทีระดับโลก
หลังจากนี้จำนวนหุ่นยนต์ต่อจำนวนแรงงานของประเทศไทยมีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจะมีความสำคัญอย่างมากในอนาคต
ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ อยู่ในอันดับ 14 ของโลก และคาดว่าจะขยับมาอยู่ในอันดับที่ 10 หรือ ลำดับที่ 5ในอนาคต เนื่องจากอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และอัตโนมัติ ถือเป็น 1 ใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่อีอีซีได้ผลักดันอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการยกระดับศักยภาพ ในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก
ดร.คณิศ บอกว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมในอีอีซี ได้นำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้อย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมยายนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีคอล และอาหาร ซึ่งมีบริษัทเพียง 15 % ที่นำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เข้ามาใช้ปฏิบัติงานเต็มรูปแบบ
ดังนั้นในปี 2564 จะมีการผลักดันด้วยการออกเคมเปญใหญ่ ให้โรงงงาน อุตสาหกรรม ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในการผลิตให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบ 5G ที่จะมีสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ 50% ของ อีอีซี ภายใน ม.ค.ปี 64
ด้าน ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ที่ปรึกษาพิเศษด้านพัฒนาการศึกษาบุคลากร และเทคโนโลยี สกพอ. กล่าวว่า ที่ผ่านมา อีอีซีได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) คัดผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวน 50 ราย เพื่อเข้าร่วมในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตด้วยการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในการผลิต ซึ่งจะใช้งบในการปรับระบบการผลิตประมาณ 500,000 บาทต่อราย
โดยจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเป็นเงิน 250,000 บาท หรือประมาณ 50 % ต่อราย ซึ่งได้มอบหมายให้ สมาคมผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย หรือ TARA เป็น ผู้ดำเนินการทำระบบให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ประมาณต้นปี 64 ซึ่งจะใช้เวลาในการปรับปรุงและเดินเครื่องการผลิตได้ประมาณกลางปี 64
“โครงการนี้ถือเป็นเฟสแรกที่ทำร่วมกับ สสว. มีผู้สมัครเข้ามามากกว่า 50 ราย จึงต้องคัดให้เหลือตามเป้าที่วางไว้ เราจะทำเป็นต้นแบบให้กับผู้ประกอบการอื่นได้เห้นถึงความสำคัญในการนำเอาระบบอัตโนมัติมาใช้ในการผลิต หากประสบควาสำเร็จก็อาจจะขยายเฟสต่อไปอีก”ดร.ชิต กล่าว