รางวัลช่วย SME – ธพว.คว้า AAA(tha) 8 ปีซ้อน
ฟิทช์ จัดอันดับเครดิต SME D Bank ระดับ“AAA(tha)” สูงสุดในประเทศ 8 ปีซ้อน สะท้อนมีเสถียรภาพ และมีบทบาทสำคัญต่อการช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทย ช่วงซมพิษไข้โควิด-19
รายงานข่าวจาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ประจำปี 2563 อยู่ที่ “AAA(tha)” แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นอันดับสูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศ และคงอันดับเครดิตระยะสั้นที่ “F1+(tha)” สะท้อนมุมมองของฟิทช์ ว่า SME D Bank มีโอกาสสูงจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในกรณีที่มีความจำเป็น
โดยพิจารณาจากบทบาทสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการจากธนาคารพาณิชย์ได้เพียงพอ โดยเฉพาะช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแอ ทั้งนี้ อันดับเครดิตภายในประเทศยังสะท้อนถึงสถานะทางกฎหมายของธนาคารฯ ที่ก่อตั้งขึ้นภายใต้ พ.ร.บ.เฉพาะเพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และยังสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล และมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงจากกระทรวงการคลังถึง 98.9%
ทั้งนี้ รัฐบาลให้การสนับสนุน SME D Bank โดยการชดเชยดอกเบี้ยและชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากหนี้เสียสำหรับสินเชื่อภายใต้โครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี อีกทั้ง กระทรวงการคลังสนับสนุนเพิ่มทุนให้ต่อเนื่อง รวมถึงให้การค้ำประกันหุ้นกู้ของ SME D Bank ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของ SME D Bank ในช่วงภาวะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย SME D Bank มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งการเลื่อนชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึง ให้เงินกู้ฉุกเฉิน
น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กก.ผจก. SME D Bank กล่าวว่า การได้รับจัดอันดับเครดิตที่ ‘AAA (tha)’ ต่อเนื่อง 8 ปีซ้อน (2556 – 2563) สะท้อนถึงความมีเสถียรภาพเครดิตของธนาคารฯ และการมีบทบาทสำคัญในเชิงนโยบายต่อรัฐบาลตามที่ได้กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.จัดตั้งธนาคารตามกฎหมายให้เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อการพัฒนาเอสเอ็มอี
ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น SME D Bank ยิ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นกลไกของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่ได้รับผลกระทบ ผ่านมาตรการเติมความรู้คู่ทุน โดย SME D Bank สนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ช่วยเสริมสภาพคล่อง รักษาการจ้าง
เช่น “สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash” ครอบคลุมช่วยเหลือทุกกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งทางตรง และทางอ้อม อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ใน 2 ปีแรก ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ “สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน” นิติบุคคล อัตราดอกเบี้ย เพียง 2.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก และบุคคลธรรมดา อัตราดอกเบี้ย เพียง 4.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก
ควบคู่กับมี มาตรการเติมความรู้เพิ่มศักยภาพ ยกระดับธุรกิจ ขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะผ่านอีคอมเมิร์ซ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง ช่วยให้เอสเอ็มอีเพิ่มรายได้ และสามารถปรับตัวก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้ด้วยดี.