ธอส.ผุด “6 บริการดิจิทัล” ก่อนต่อ “เฟส 2” ธ.ค.นี้
ธอส.ฉลอง 67 ปี ผุดโครงการ G H Bank New Normal Services เฟสแรก อัพ “6 บริการดิจิทัล” ผ่านแอปฯ GHB ALL ช่วยลูกค้าทำธุรกรรมง่ายขึ้น ก่อนขยับเฟส 2 ธ.ค.นี้ หวังต่อยอดบริการอีกเพียบ เผย! ซื้อสลากออมทรัพย์ฯ ผ่านแอปฯ 24 ก.ย.นี้ รับเพิ่มดอกเบี้ยเป็น 1.1%
นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวถึงนโยบายที่ บอร์ดธนาคารฯ ภายใต้การนำของ นายปริญญา พัฒนภักดี ประธานฯ มอบหมายให้ดำเนินโครงการ “G H Bank New Normal Services” (เฟส 1) โดยพัฒนาฟังก์ชั่นบริการเพิ่มเติม ทั้งด้านการเงินและสินเชื่อเพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรม ได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลด้วยMobile Application : GHB ALL ประกอบด้วย
1.ซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ทั้งซื้อสลากครั้งแรกหรือซื้อเพิ่มเติม โดยเริ่มให้บริการวันที่ 18 ส.ค. 2563 พบลูกค้าซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ หน่วยละ 50,000 บาท ผ่าน GHB ALL กว่า 5,500 หน่วย ล่าสุด ได้จัดทำโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสลากผ่านGHB ALL โอกาสครบรอบปี่ 67 ในวันที่ 24 ก.ย. มอบอัตราดอกเบี้ย 1.1% จากปกติ 0.90% ภายใต้วงเงิน 5,000 ล้านบาท และการเปิดรับซื้อสลาก ธอส. ชุดต่อไปจะเปิดให้ลูกค้าซื้อผ่าน GHB ALL
2.ขอ Statement บัญชีเงินฝาก เพื่อให้ลูกค้านำข้อมูลบัญชีประเภทออมทรัพย์ไปใช้เป็นหลักฐานขออนุมัติธุรกรรมต่างๆ โดยภายหลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วนตามที่กำหนดแล้ว ระบบจะส่ง Statement บัญชีเงินฝากตามที่ระบุไปที่ E-mail ของลูกค้า
3.จองคิวใช้บริการล่วงหน้า เพื่อเลือกสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลที่ต้องการใช้บริการ ระบบจะแจ้งรายชื่อสาขา เรียงลำดับระยะทางใกล้กับจุดที่ลูกค้าอยู่มากสุด สามารถเลือกบริการประเภทที่ต้องการพร้อมระบุวันและเวลาที่ต้องการนัดหมาย และหลังจากกดยืนยันแล้วจะสามารถไปรอรับบริการที่สาขาในวันเวลาที่นัดหมายได้ทันที
4.ใบเสร็จชำระเงินกู้รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แทนรูปแบบเดิมที่เป็นกระดาษและจัดส่งทางไปรษณีย์ สำหรับลูกค้าที่ชำระเงินงวดผ่านการหักบัญชีอัตโนมัติ หรือผ่านช่องทางตัวแทน และลูกค้าสวัสดิการที่ชำระโดยหน่วยงานต้นสังกัด ซึ่งจะมีข้อมูลสำคัญเช่นเดียวกับใบเสร็จแบบกระดาษ อาทิ ยอดที่ชำระเงินต้น ดอกเบี้ย และเงินต้นคงเหลือ
5.ชำระเงินดาวน์ทรัพย์ NPA เพียงเลือกบัญชีที่ต้องการชำระพร้อมด้วยรหัสทรัพย์ NPA เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยและกดยืนยันแล้ว ระบบจะส่งใบเสร็จให้ผู้ชำระทันที
และ 6.แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่งเอกสาร/การติดต่อกับธนาคารโดยไม่ต้องเดินทางไปแจ้งที่สาขา เพื่อไม่ให้พลาดการติดต่อหรือรับข้อมูลสำคัญจากธนาคาร โดยลูกค้ายังสามารถเลือกเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์ E-Mail และ Line ID ซึ่งเป็นช่องทางการติดต่อที่สะดวกรวดเร็วในปัจจุบันได้อีกด้วย
“การพัฒนา โครงการ G H Bank New Normal Services สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ธอส. ที่จะพัฒนาบริการดิจิทัลใหม่ๆ สำหรับลูกค้าที่เข้ากับกับไลฟ์สไตล์ยุค New Normal ให้ได้มากที่สุด และ ธนาคารฯจะเดินหน้าพัฒนาบริการเพิ่มเติมใน เฟส 2 อาทิ เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ขอหนังสือรับรองภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ขอหนังสือรับรองภาษีดอกเบี้ยเงินกู้ แจ้งความประสงค์กู้เพิ่ม ตรวจสอบข้อมูลเครดิต รับเงินของขวัญปีใหม่ของธนาคาร (Cash Back) แจ้งขอหนังสือรับรองเพื่อเบิกค่าเช่าบ้านหรือขอหนังสือรับรองตามยอดที่เบิกได้ และนัดวันรับโฉนด เป็นต้น” นายฉัตรชัย ระบุและว่า
เฟส 2 จะเริ่มให้บริการได้ภายในเดือน ธ.ค. 2563 ทั้งนี้ ธอส. ตั้งเป้าหมายว่าในสิ้นปี 2563 จะมีจำนวนลูกค้าที่ทำธุรกรรมการโอนเงินและชำระหนี้เงินกู้ผ่าน GHB ALL เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 756,300 รายการ หรือเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับธุรกรรม ณ สิ้นปี 2562
โดย ณ วันที่ 31 ส.ค.2563 ธนาคารฯมีลูกค้าที่สมัครใช้บริการ GHB ALL และยังใช้งานอยู่ 710,318 บัญชี เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปีก่อนที่มีลูกค้าใช้งาน 242,180 บัญชี ปัจจุบันลูกค้ามีการทำธุรกรรมการโอนเงินและชำระหนี้เงินกู้ผ่าน GHB ALL 590,769 รายการ เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปีก่อน ที่มีการทำธุรกรรม 375,981 รายการ หรือเพิ่มขึ้นถึง 57.13%
รายงานข่าวจาก ธอส. เสริมว่า การนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในครั้งนี้ ธนาคารฯตระหนักถึงความปลอดภัยด้านข้อมูลของลูกค้า โดยเฉพาะการวางมาตรการป้องกันปัญหาการแฮ็กข้อมูลจากกลุ่มมิจฉาชีพ ภายใต้มาตรการและมาตรฐานที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ เชื่อว่าจะช่วยป้องกันการรั่วไหลข้อมูลของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ส่วนใน เฟส 2 ที่ลูกค้าใหม่สามารถเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ได้ด้วยตัวเองนั้น ซึ่งระบบได้อำนวยความสะดวกให้สามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องพบกับเจ้าหน้าที่ ผ่านการลงทะเบียนยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ซึ่งไม่เพียงลดขั้นตอนการดำเนิน ลดเอกสารกระดาษ หากยังช่วยให้ลูกค้าใหม่เข้าสู่ระบบบริการของธนาคารฯได้ง่ายขึ้น.