ธสน.งัดมาตรการอุ้ม 4 กลุ่มลูกค้าเหยื่อโควิดฯ
EXIM BANK ออกมาตรการเจาะกลุ่มฟื้นฟูกิจการลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 รวม 4 กลุ่มหลัก พร้อมเร่ง “ส่งเสริม-ผ่อนปรน-ขยายระยะเวลา-ประคับประคอง” หนุน SMEs ให้มีสภาพคล่องและเติบโตต่อไปได้
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กก.ผจก. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ EXIM BANK กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังยืดเยื้อและลุกลามไปทั่วโลก ว่า ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบทุกภาคส่วนหยุดชะงักลง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกคาดการณ์ว่า GDP โลกปี 2563 จะหดตัว 4.9% และ 5.2% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการหดตัวมากที่สุดในรอบกว่า 90 ปี
สำหรับประเทศไทยเศรษฐกิจโลกที่หดตัวอย่างรุนแรงดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งอ่อนไหวต่อวิกฤตและความไม่แน่นอนสูง สะท้อนได้จากมูลค่าส่งออกของ SMEs ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 หดตัว 17.9% มากกว่ามูลค่าส่งออกรวมของประเทศไทยในช่วงเวลาเดียวกันที่หดตัว 7.1%
ดังนั้น ธนาคารฯจึงได้ออก “มาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบการหลังสถานการณ์โควิด-19” เพื่อเข้าไปดูแล ช่วยเหลือ สนับสนุนลูกค้าที่จำแนกได้เป็น 4 กลุ่ม ตามความต้องการของกิจการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ดังนี้
1.ผู้ประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตได้ ธนคารฯจะ “ส่งเสริม” ให้มีสภาพคล่องเพียงพอและมีความสามารถในการชำระหนี้ได้อย่างต่อเนื่อง
2.ผู้ประกอบการที่มีรายได้ลดลง แต่สามารถดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง EXIM BANK จะ “ผ่อนปรน” เงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการชำระเงินต้นได้หมด รวมทั้งสามารถขอสินเชื่อเพิ่มได้
3.ผู้ประกอบการที่ต้องการการ “ขยายระยะเวลา” การชำระคืนหนี้ เพื่อรอให้กิจการผ่านพ้นวิกฤต หรือต้องการการปรับปรุงโครงสร้างการผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยบางส่วน
และ 4.ผู้ประกอบการที่ขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ธนาคารฯจะเข้าไปช่วยเหลือ “ประคับประคอง” เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงการชำระหนี้ ช่วยชะลอการเกิดหนี้ NPLs
ทั้งนี้ ภายใต้ “มาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบการหลังสถานการณ์โควิด-19” ลูกค้าของธนาคารฯสามารถขอขยายระยะเวลา เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระเงินกู้ให้สอดคล้องกับธุรกิจ และขอรับวงเงินสินเชื่อเพิ่มได้ ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ธ.ค.2564
“EXIM BANK ได้ติดตามสถานการณ์ผลกระทบของโควิด-19 อย่างใกล้ชิดและพบว่า ลูกค้าที่ได้รับการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุดนาน 6 เดือนตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จำนวนกว่า20% ยังไม่สามารถผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้ และต้องการให้ธนาคารผ่อนปรนเงื่อนไขและขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ ขณะที่บางกิจการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้แต่ต้องการเงินทุนเพิ่ม และบางรายอาจยังขาดสภาพคล่อง EXIM BANK จึงพร้อมสนับสนุนสภาพคล่องและเข้าไปดูแลปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจส่งออกของไทย โดยเฉพาะSMEs ค่อย ๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติและเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง นำไปสู่การจ้างงานและการพัฒนาประเทศของไทย” นายพิศิษฐ์ ย้ำ.