กรุงศรีฟินโนเวตเดินหน้าลงทุนใน”สตาร์ทอัพ”
กรุงศรี ฟินโนเวตเดินหน้าลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีแนวโน้มเติบโตหลังสถานการณ์โควิด-19 เตรียมขอเพิ่มอนุมัตเพิ่มทุนจากธนาคารกรุงศรีฯอีก50 ล้านเหรียญรอบงรับลงทุนปีหน้า ล่าสุดร่วมทุนใน “ไอคอน เฟรมเวิร์ค” หนึ่งในผู้นำด้านการเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
การลงทุนในธุรกิจStart Up ยังเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะหลังการระบาดของวิกฤตโควิค-19 ที่ทำให้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า กรุงศรี ฟินโนเวตยังคงมุ่งเน้นการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพสตาร์ทอัพไทย พร้อมติดตามผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีต่อนิเวศธุรกิจ (Ecosystem) ของสตาร์ทอัพที่กรุงศรีได้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง และนำมาทบทวนแผนการดำเนินธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของเรา เพื่อให้มั่นใจว่ากรุงศรี ฟินโนเวตและพันธมิตรสตาร์อัพจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมและแนวโน้มของเทคโนโลยีที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต
โดยกรุงศรี ฟินโนเวต ได้ปรับแผนการดำเนินการงานที่มุ่งเน้นในการสร้างพันธมิตรและลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีโอกาสเติบโตและมีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เช่น อีโลจิสติกส์ (e-Logistics) การชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Payment) การให้บริการด้านซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชั่นผ่าน (Software as a service : SaaS) และการส่งอาหาร (Food Delivery) เป็นต้น”
บริษัทเตรียมขออนุมัติเพิ่มทุนจากธนาคารกรุงศรีฯอีก 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงต้นปี 64 เพื่อนำมาใช้เพื่อลงทุนสตาร์ทอัพตั้งแต่ปี 64 เป็นต้นไป ปัจจุบันวงเงินสำหรับการลงทุนสตาร์ทอัพครั้งแรกที่ BAY อนุมัติมา 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ใช้ลงทุนในสตาร์ทอัพไปแล้ว 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ตั้งแต่ต้นปีบริษัทได้ลงทุนในสตาร์ทอัพไปแล้ว 7 ราย ได้แก่ ฟิโนมินา เป็นสตาร์ทอัพด้านการลงทุน ,บาเนีย พัฒนาบิ๊กเดต้าด้านอสังหาริมทรัพย์ , ช็อคโก้ พัฒนาสินเชื่อร้านค้าเอสเอ็มอี ,ไซลอต พัฒนาแอพพลิเคชั่น และแพลตฟอร์มอีแบงกิ้ง , Grab ,ICON Framwork ระบบเทคโนโลยีจัดการการขายและจัดการให้เช่ากับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ , OMISE ระบบจ่ายชำระเงินของร้านค้า เป็นต้น
สำหรับวเงินที่เหลือราว 10 ล้านดอลลาร์ ทางกรุงศรี ฟินโนเวตเราเตรียมจะลงทุนในสตาร์ทอีก 3 รายภายในช่วงครึ่งหลังปี 63 นี้ รวมเป็นลงทุนในสตาร์ทรวม 10 รายตามเป้าหมาย ซึ่งการลงทุนในสตาร์ทอัพจะเริ่มคืนทุนได้ในปี 65
สตาร์ทอัพที่บริษัทเข้าลงทุนแล้วมีทั้งหมด 50 สตาร์ทอัพ 75 โครงการ พร้อมกับนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้ใน 26 หน่วยงายในเครือธนาคาร
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในปีหน้า กรุงศรี ฟินโนเวต ได้ต่อยอดแนวทางการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและรองรับรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ New Normal ภายใต้กลยุทธ์การลงทุน 4 หลักการคือ
1. การลงทุนเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Investment)
2. การลงทุนโดยพิจารณาถึงผลตอบแทนในระยะยาว (Financial Returns)
3. การลงทุนในเทคโนโลยีเพื่ออนาคต (Futuristic Investment)
4. การลงทุนใน Fund of Funds
ล่าสุด กรุงศรี ฟินโนเวต ได้ร่วมลงทุนใน บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด (ICON Framework) หนึ่งในผู้นำด้านการใช้เทคโนโลยี เพื่อพัฒนาระบบการทำงานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ให้สามารถเติบโต และรองรับกับทุกสถานการณ์ในอนาคต โดยไอคอน เฟรมเวิร์ค มีประสบการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (Property Technology: Proptech) ของไทยมานานกว่า 12 ปี และได้ร่วมงานกับพันธมิตรผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับ Top 10 ของประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสามารถเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งของธุรกิจสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของกรุงศรีได้ในระยะยาว