HSBC ไตรมาสแรกกำไรหายจากวิกฤติไวรัสโควิดฯ
HSBC ธนาคารที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในยุโรป เปิดเผยรายได้ประจำไตรมาสแรกของปี 2020 พบต่ำกว่าที่คาดกาณ์ไว้ โดยกำไรลดลง 48% เนื่องจากผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
ธนาคารเปิดเผยว่าผลกำไรก่อนหักภาษีของ HSBC ลดลง 48% มาอยู่ที่ 3,230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าจะอยู่ที่ราว 3,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่รายได้ของธนาคารในไตรมาสแรกลดลง 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 13,690 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคาร HSBC ถือเป็นสถาบันการเงินข้ามชาติรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ โดยมีสัดส่วนรายได้จากทวีปเอเชียเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าผลกระทบดังกล่าวจะเป็นแรงกดดันกำไรของบริษัทตลอดทั้งปี 2020 เนื่องจากจีนได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนักจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 หุ้นของธนาคารเอชเอสบีซีในตลาดลอนดอนร่วงลงแล้ว 29.7% ขณะที่หุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงลดลง 35.1% เหตุจากแรงกดดันต่อผลกำไร รวมถึงแรงเทขายของนักลงทุนภายหลังบริษัทซึ่งมีการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอเพิ่งประกาศลดการจ่ายเงินปันผลของปี 2020 เพื่อรักษาสภาพคล่อง
นอกจากนี้ สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 และราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้ทางธนาคารปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณหนี้เสียว่าจะขึ้นมาอยู่ที่ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้ง ทางธนาคารยังเตือนให้เตรียมทำใจรับผลกำไรที่หดหาย เพราะความจำเป็นในการปรับลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการขยายระยะเวลาการชำระดอกเบี้ยหรือการพักหนี้ให้กับภาคธุรกิจทิศทางรายได้และกำไรของธนาคาร HSBC ที่ไม่ค่อยสดใสนี้ ยังมีขึ้นในช่วงเวลาที่ธนาคารกำลังอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างเพื่อตอบรับกับยุคเทคโนโลยีดิจิทัล โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะตัดลดค่าใช้จ่ายให้ได้ 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2022 ซึ่งรวมถึงการลดจำนวนสำนักงานทั่วโลกจาก 235,000 แห่งมาอยู่ที่ราว 200,000 แห่ง และการปลดพนักงานอีก 35,000 ตำแหน่ง.