“AIA-เมดิกซ์” ดูแลผู้ป่วยครั้งแรกในไทย
เอไอเอ ผนึกกลุ่มเมดิกซ์ นำเสนอบริการจัดการดูแลผู้ป่วยรายบุคคลครั้งแรกในไทย ดึงศักยภาพด้านบริการทางการแพทย์ จากผู้เชี่ยวชาญเกือบ 5,000 คน ทั้งในสำนักงานและโรงพยาบาลทั่วโลก รองรับลูกค้าประกันชีวิตชั้นนำระดับโลก หวังส่งมอบสุขภาพที่ดีที่สุด
นายอัลเจอร์ ฟัง ปธ.จนท.บห. เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวภายหลังลงนามเซ็นความร่วมมือกับ เมดิกซ์ (Medix) ประกาศเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ เพื่อนำเสนอบริการจัดการดูแลผู้ป่วยรายบุคคล (Personal Medical Case Management) สำหรับลูกค้าเอไอเอ โดยย้ำว่า “ลูกค้านับเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานของเรา ซึ่งเราเข้าใจดีว่าการที่ลูกค้าต้องเผชิญกับอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง โดยเฉพาะโรคร้ายแรง เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย จึงเป็นที่มาให้เราร่วมมือเป็นพันธมิตรกับเมดิกซ์ เพื่อให้ลูกค้าของเราเกิดความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพระดับโลก”
“นอกเหนือจากนั้น กลยุทธ์พันธมิตรธุรกิจระหว่างเอไอเอกับเมดิกซ์ ยังถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นของเอไอเอที่จะผลักดันให้บริษัทเปลี่ยนไปเป็นคู่คิดของลูกค้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงผู้จ่ายสินไหมเท่านั้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ไปตลอดทุกช่วงชีวิตของลูกค้า เพื่อนำมาซึ่งผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ดีขึ้น สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ยังเรียกได้ว่าเป็นการประสานความเชี่ยวชาญระหว่างเอไอเอ ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิต และความชำนาญด้านการจัดการดูแลผู้ป่วยระดับโลกของเมดิกซ์ เพื่อร่วมกันส่งมอบการดูแลรักษาด้วยรูปแบบใหม่ รวมถึงวิธีการป้องกันให้กับคนไทย นับเป็นการยกระดับการเป็นผู้นำในตลาดประกันสุขภาพของเอไอเอ ให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น”
ปธ.จนท.บห. เอไอเอ ประเทศไทย ย้ำว่า ลูกค้าของเอไอเอที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากบริการของเมดิกซ์ จะต้องเป็นลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ประเภทประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง เช่น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม เอไอเอ อินฟินิท แคร์ (AIA Infinite Care) รวมถึงสมาชิกเอไอเอ เพรสทีจ คลับ ซึ่งจะสามารถได้รับบริการจากเมดิกซ์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ด้าน นางซิกัล อัทซ์มอน ปธ.และปธ.จนท.บห. เมดิกซ์ กล่าวเสริมว่า เมดิกซ์มุ่งเน้นในการให้บริการด้านการจัดการดูแลผู้ป่วยรายบุคคลเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีและเหมาะสมที่สุด ซึ่งจากการที่เมดิกซ์มีวิสัยทัศน์และพันธสัญญาที่สอดคล้องกับเอไอเอ ทำให้เรารู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมมือกับกลุ่มบริษัทเอไอเอ และยิ่งไปกว่านั้น เรารู้สึกยินดีที่จะได้มาดูแลลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นความร่วมมือที่ต่อเนื่องในระดับภูมิภาค
ทั้งนี้ หลังจากที่เราประสบความสำเร็จในการนำเสนอการบริการนี้ที่ฮ่องกง และสิงคโปร์ เราได้ขยายความร่วมมือทางธุรกิจต่อไปยังประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และล่าสุดในประเทศไทย รวมทั้งจะขยายเพิ่มไปยังประเทศอื่นๆ อีกในปี 2563 และปีต่อๆ ไป ซึ่งเรามีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมให้ผู้คนทั่วทั้งเอเชียได้มีโอกาสในการเลือกรับการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม
ด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ เราจะร่วมกันสร้างความแตกต่างที่เป็นรูปธรรมให้กับชีวิตของคนไทย ผ่านการนำเสนอการบริการทางการแพทย์แบบครบวงจรโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ขณะเดียวกันเราจะสนับสนุนความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพให้กับผู้ป่วย พร้อมกับนำเสนอเครื่องมือและทางเลือกในการรักษาพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยได้มีข้อมูลในการตัดสินใจรับการรักษาพยาบาลที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด
บนความร่วมมือระหว่าง เอไอเอ ประเทศไทยกับเมดิกซ์ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดการบริการด้านสุขภาพของเอไอเอ ประเทศไทย ที่มุ่งส่งมอบการดูแลสุขภาพลูกค้าที่เป็นเลิศด้านคุณภาพและประสบการณ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้รับการรักษาที่ดีและเหมาะสม ตลอดจนได้รับการดูแล คำแนะนำ และช่วยเหลือไปตลอดเส้นทางการรักษาพยาบาล เมื่อต้องเผชิญกับการเจ็บป่วยที่รุนแรง ซึ่งสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของเอไอเอ ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’
โดยบริการรูปแบบนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยลูกค้าของเอไอเอ ที่กำลังเผชิญกับอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง ให้มั่นใจว่าจะได้รับการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อีกทั้งยังสามารถเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมและได้รับการดูแลอย่างดีตลอดการรักษาพยาบาลไปจนถึงการพักฟื้น อีกทั้ง บริการนี้จะช่วยบรรเทาความเครียดและความกดดันของผู้ป่วย รวมถึงครอบครัวของผู้ป่วยเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลโรคที่รุนแรง ตลอดจนช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยว่าจะได้รับการดูแลแบบรายบุคคล
สำหรับลูกค้าของเอไอเอที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากเมดิกซ์จะสามารถเข้ารับบริการและประเมินอาการเจ็บป่วยจากทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของเมดิกซ์ ที่ประกอบไปด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำการภายในบริษัทกว่า 300 คน และเครือข่ายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในหลากหลายสาขาชั้นแนวหน้ากว่า 4,000 คนทั่วโลก เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะมีเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยข้อมูลเชิงความรู้ พร้อมกับได้รับการรักษาพยาบาลที่ดีและเหมาะสมที่สุดในทุกที่ทั่วโลก.
