WORKMATEพัฒนาตลาดแรงงานในเอเชีย
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2019/11/a4c45420fd242071baa4fee11389c007_XL.jpg)
WORKMATE ได้รับการลงทุน 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบซีรี่ส์เอ เพื่อพัฒนาตลาดแรงงานนอกระบบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัท เวิร์คเมค จำกัด (Workmate) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจัดหาพนักงานแบบครบวงจรประกาศการระดมทุนรอบซีรี่ส์เอ เป็นจำนวนเงิน 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำโดย Atlas Ventures และร่วมลงทุนโดย Gobi Partners, บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (Beacon Venture Capital) บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย และนักลงทุนอื่น ๆ โดยเวิร์คเมทจะนำเงินทุนนี้ไปขยายฐานลูกค้า พัฒนาเทคโนโลยี และขยายบริการไปยังตลาดใหม่ ทั้งนี้นับตั้งแต่มกราคม 2559 เวิร์คเมทมีการระดมทุนไปแล้วทั้งสิ้น 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และธุรกิจเติบโตเพิ่มขึ้น 10 เท่านับตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 โดยบริษัทมีพันธกิจในการยกระดับตลาดแรงงานนอกระบบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการจ้างงานนอกระบบถึง 50% ของการจ้างงานทั้งหมด ซึ่งตลาดแรงงานนอกระบบมีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่ง นายจ้างยังแสวงหาลูกจ้างด้วยวิธีการดั้งเดิม เช่น การแนะนำแบบปากต่อปาก ซึ่งทำให้เข้าถึงพนักงานจำนวนน้อยและไม่สามารถเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ตามที่ต้องการได้
มิสเตอร์แมทธิว วาร์ด ผู้ก่อตั้งบริษัทเวิร์คเมท มีความตั้งใจจะเปลี่ยนตลาดการจ้างงานให้ทันสมัยและคล่องตัวมากขึ้น จึงร่วมก่อตั้งบริษัทกับผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่นที่ล้วนมีประสบการณ์ในการสร้างบริษัทเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้วมากมาย เช่น Admax Network, Ardent Capital, Ensogo และ aCommerce
“ เวิร์คเมทช่วยให้นายจ้างสามารถเข้าถึงพนักงานชั่วคราวได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น นายหน้า ทำให้นายจ้างสามารถลดค่าใช้จ่ายในการจ้างงานลงกว่า 30% ซึ่งระบบการจ้างงานแบบนายหน้านี้ไม่มีการใช้เทคโนโลยีและยังคงเป็นรูปแบบเดิมมานานกว่า 40 ปี การนำแพลตฟอร์มมาใช้ในระบวนการจ้างงานกำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก แม้กระทั่งบริษัทชั้นนำ อาทิ Uber ยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์มจ้างงานชื่อ Uber Works มาใช้ในสหรัฐฯ ” แมทธิว กล่าว
เวิร์คเมทตั้งใจที่จะเข้ามาสนับสนุนตลาดแรงงานนอกระบบในภูมิภาคนี้ ที่มีความต้องการพนักงานชั่วคราวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในงานบริการ งานผลิต หรืองานรับจ้างทั่วไป ทั้งนี้ แพลตฟอร์มหางานส่วนใหญ่จะเน้นการจ้างงานประจำของพนักงานบริษัท แต่เวิร์คเมทเห็นว่า โอกาสที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การจ้างงานชั่วคราว ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาได้ โดยสร้างประสิทธิภาพในวงกว้าง
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด กล่าวว่า บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการทางการเงินที่ดีแก่ตลาดแรงงานที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างเต็มที่ (Underserved Population) และเชื่อมั่นว่าด้วยองค์ความรู้ ประสบการณ์ และความตั้งใจของเวิร์คเมทที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของกลุ่มพนักงาน ประกอบกับความสามารถในการเติบโตทางธุรกิจทั้งในประเทศไทยและอินโดนีเซียในปีที่ผ่านมา จะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถเข้าใจและเข้าถึงตลาดนี้ได้มากขึ้น และให้บริการทางการเงินที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพการเงินแก่บุคคลากรและพนักงานในตลาดแรงงานนี้