กบข.มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้น โวกำไรลงทุน 4.7%

กบข. มั่นใจเศรษฐกิจไทยกระเตื้องขึ้น ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ แต่กังวลบาทแข็งค่ากระทบการส่งออก เผยสามารถบริหารจนมีผลตอบแทน 4.7% จากการลงทุนในตลาดหุ้นต่างแดน สวนทางตลาดพันธบัตรที่หดตัวตามดอกเบี้ยที่ลดลง
นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า กบข. มั่นใจเศรษฐกิจไทยขยายตัวกระเตื้องขึ้น โดยในไตรมาส 3 คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.9% และไตรมาส 4 ที่ 3.1% ขึ้นไป ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากอัตราการเติบโตที่ 2.5% ในครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับอานิสงส์โดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนที่เป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อย และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร รวมถึงการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ ผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้นการลงทุนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เป็นต้น คาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 3.2 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองในเรื่อง ค่าเงินบาท ที่ปัจจุบันแข็งค่าขึ้น 7.82% เป็นสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย มีสาเหตุหลักมาจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่องของไทย ขณะที่สกุลเงินของประเทศอื่นในภูมิภาคไม่แข็งค่าเท่าเงินบาท เช่น ค่าเงินวอนเกาหลีอ่อนค่าลง 4.1% ค่าเงินมาเลเซียริงกิตอ่อนค่าลง 1.1% และค่าเงินฟิลิปปินส์เปโซ 3.5% ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทจะส่งผลลบต่อการขยายตัวของการส่งออกทั้งสินค้าและบริการของไทยในระยะต่อไป ประกอบกับปัจจัยเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำมาก โดยธนาคารกลางทั่วโลกประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ซึ่ง กบข. คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในสิ้นปีนี้
สำหรับผลตอบแทนการลงทุน กบข. ณ วันที่ 31 ต.ค.62 กองทุนฯสามารถทำผลตอบแทนได้ 4.7% ปรับตัวขึ้นจากผลตอบแทนตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว และการลดลงของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรทั่วโลก ปัจจุบัน กบข. มีเงินกองทุนภายใต้การบริหารจัดการ 935,000 ล้านบาท โดยกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ 15 ประเภท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ.