กกร. เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มตัวต่ำกว่า 2.8%
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2019/10/kh.jpg)
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เผยเศรฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี2562 เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยทั้งการส่งออกและการใช้จ่ายภายในประเทศมีสัญญาณที่อ่อนแรงลงต่อเนื่อง
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ว่าทิศทางชะลอตัว ลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัว 2.8% สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยยังประเชิญความท้าทายหลายปัจจัยโดยเฉพาะเมื่อสหรัฐเตรียมที่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าในอัตรา 10% ต่อสินค้าจีนวงเงิน 3 แสนล้าน ดอลล่าร์ ในวันที่ 1 กันยายนนี้ส่วนจีนได้ปรับค่าเงินหยวนอ่อนค่าหลุดระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์โดยเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 11 ปีจากนั้นสหรัฐก็ระบุว่าจีนเป็นประเทศที่บิดเบือนค่าเงินซึ่งน่าจะนำมาสู่มาตรการเพิ่มเติมจากฝั่งสหรัฐและส่งผลให้สงครามการค้ามีความเสี่ยงที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่สหราชอาณาจักรอาจจะต้องออกจากสหภาพยุโรปโดยไร้ข้อตกลงในวันที่ 31 ตุลาคมนี้
ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อเรื่องต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงอยู่แล้วและเมื่อประกอบกับความผันผวนของค่าเงินดอลล่าร์ที่ทำให้เงินบาทยังมีแนวโน้มแขวงและผันผวนอาจปรับแข็งค่าขึ้นล้วนเป็นแรงกดดันที่ไม่เอื้อต่อภาพการฟื้นตัวของการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปี นับจากต้นปีจนถึงหกสิงหาคม 2562 เงินบาทแข็งค่าแล้ว 5.9% เมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์โดยเป็นอัตราแข็งค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ แรงหมุนต่อเศรษฐกิจไทยคงต้องหวังพึ่งพาการใช้จ่ายภายในประเทศโดยเฉพาะมาตรการระยะสั้นจากภาครัฐบาลทั้งเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะภัยแล้งและเรียกฟื้นความเชื่อมั่นของภาคเอกชน
โดยรวมที่ประชุม กกร. จะติดตามสาระการต่างๆเพื่อประเมินทิศทางและปรับตัวของเครื่องชี้ เศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิดติดต่อไปนะขนาดนี้ยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจการส่งออกและอัตราเงินเฟ้อในปี 2562 ไว้ตามกรอบเดิม GDP 2.9-33 ส่งออก -1.0-1.0 และ เงินเฟ้อ 0.8-1.2