BAYส่องทิศทางตลาดการเงิน
ธนาคารกรุงศรีมองเศรษฐกิจโลกTrade warกดดันตลาด ยังไม่จบ คงสร้างความผันผวนของตลาดอย่างที่ผ่านมา
นาย ตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรี กล่าวว่า บรรยากาศตลาดโลกอยู่ในช่วงขาลงในปี61โลกมองเศรษฐกิจเป็นขาขึ้นแต่ปี62 สถานการณ์ กลับทิศจากเดิม ตลาดการเงินเคยเชื่อว่าสหรัฐรับมือกับสงครามการค้าได้ดีกว่าตลาดเปิดใหม่เพราะที่ป่านมาเราคาดว่า เฟดจะขึ้นเลยสร้างความไม่แน่ใจให้ลูกค้าเพราะ เฟด กลับทาทีจากเดิมจะขึ้นดอกเบี้ย 1-2ครั้ง แต่ตอนนี้ คงดอกเบี้ยเดิม ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะลงดอกเบี้ย
ในปี2561เฟดขึ้นดอกเบี้ย4ครั้งแม้ทรัมป์เปิดฉากสงครามการค้า
กรุงศรี มองว่า เฟดน่าจะลดดอกเบี้ย3ครั้งในปีนี้ ครั้งนี้มีความกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพราะปัจจัยเสี่ยงตรงที่การเติบโตของเศรษฐกิจมีเยอะเกินไป
สงครามการค้าและความขัดแย้งขยายวงกว้าง เรามองว่าสหรัฐขัดแย้งในหลายประเทศ
จีนสู้กันเรื่องเทคโนโลยี สหรัฐต่อต้านการใช้5G ของจีน
สหรัฐเตรียมขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องจากญี่ปุ่น
สหรัฐมีแผนเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องจากแม็กซิโกแต่ได้ยกเลิกหลังตกลงกับเม็กซิโกเรื่องปัญหาผู้ลี้ภัย
สหรัฐเลิกสิทธิ์จีเอสพีแก่อินเดีย อินเดียเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ
สหรัฐเตรียมขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์อากาศยาน และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ อียู
ในส่วนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเรามองว่า เงินบาทในช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มค่าที่6.3%ชี้ให้เห็นว่า ผู้ส่งออกไทยจะไปสู้กับตลอดโลกได้อย่างไร ตอนนี้ไทยมีงบดุลสำรอง อยู่6-7%คือ2แสนล้านเหรียญ อาจถูดมองว่าเป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัย แต่กลับกลายเป็นปัญหาในหลายมิติ เช่น การส่งออก บรรยากาศตลาดโลก ทำให้ทิศทางและความผันผวนจะอยู่กัยค่าเงินบาทและจะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
มีวิกฤตต้องมีโอกาส จังหวะที่บาทแข็งค่า อยากให้ผู้ประกอบการนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์ในระยะยาว ดีกว่าการพึ่งพาค่าเงินอย่างเดียว อยากให้มอง เงินบาทแข็งค่านานควรนำเงินลงทุนในการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ เราสรุปทิศทางเศรษฐกิจ เงินบาทแข็งค่าต่อไป 29.50-31บาท ในส่วนดอกเบี้ยคงตัวหรือลดลงได้ และ Trade war ยังไม่จบ ทำให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม