KBANK โครงการเร่งศักยภาพสตาร์ทอัพไทย

กสิกรไทย เปิดตัวโครงการ KATALYST (แคททะลิสต์) เร่งศักยภาพสตาร์ทอัพไทย ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจขยายธุรกิจ และมีแนวทางไปในทิศทางเดียวกับกลยุทธ์องค์กรของธนาคาร ร่วมกันสร้างคุณค่าทางธุรกิจ (Co-Creation) ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ ให้คำปรึกษา และสนับสนุนจากฝ่ายงานธนาคารและพันธมิตร เพื่อนำมาใช้งานต่อยอดทางธุรกิจร่วมกัน
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญและสนใจทำธุรกิจด้วยตัวเอง โดยการเป็นสตาร์ทอัพมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนและกองทุนสนใจเข้ามาร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลกเป็นจำนวนมากเช่นกัน ที่ผ่านมาสตาร์ทอัพสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาได้ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถนำพาธุรกิจให้อยู่รอดหรือเติบโตต่อไปได้ ทำให้สตาร์ทอัพมากกว่า 90% ยังไม่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ และนับวันจะมีช่องว่างให้สตาร์ทอัพน้องใหม่เบียดเข้ามาแข่งขันในตลาดได้ยากขึ้น เนื่องจากผู้เล่นรายเดิมหรือผู้เล่นรายใหญ่มีการจับมือและพัฒนาศักยภาพของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อปกป้องและขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น
ดังนั้นสตาร์ทอัพจึงต้องการคนช่วยที่เป็นทั้งเพื่อน ที่ปรึกษา และพันธมิตรในการที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ ธนาคารกสิกรไทยจึงริเริ่มโครงการ KATALYST เพื่อช่วยสตาร์ทอัพที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจขยายธุรกิจ และมีแนวทางการดำเนินธุรกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลยุทธ์ของธนาคารหรือลูกค้า พันธมิตรของธนาคาร เพื่อร่วมสร้างจุดเริ่มต้นที่ดีและช่วยยกระดับให้กับสตาร์ทอัพไทย โดยโครงการ KATALYST เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทที่พร้อมให้คำแนะนำแก่สตาร์ทอัพในด้านต่าง ๆ อาทิ รูปแบบของการทำธุรกิจ การให้ความรู้และการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ตลอดจนให้คำแนะนำในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยร่วมกับหน่วยงานของธนาคาร บริษัทของธนาคาร พันธมิตรของธนาคาร และบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด ที่จะให้การสนับสนุนในเรื่องของเงินลงทุน เพื่อให้วงการสตาร์ทอัพไทยเติบโตและประสบความสำเร็จ
ปัจจุบันไทยมีสตาร์ทอัพกว่า 600 รายที่มาลงทะบียนกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA มีสตาร์ทอัพที่มีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนในปี 2560 จำนวน 31 ราย เป็นเงิน 106.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,350 ล้านบาท และในปี 2561 มีสตาร์ทอัพที่มีผู้ร่วมลงทุน 35 ราย เป็นเงิน 61.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,933 ล้านบาท จะเห็นว่ามีแนวโน้มที่ชะลอลง เนื่องจากสตาร์ทอัพไทยยังเติบโตไม่ทัน ซึ่งธนาคารหวังว่าโครงการ KATALYST จะเข้ามาช่วยพัฒนาและต่อยอดสตาร์ทอัพให้มีศักยภาพมากขึ้น สามารถดึงดูดเงินทุนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อยกระดับเป็นสตาร์ทอัพระดับภูมิภาคหรือระดับโลก ต่อไปในอนาคต