อลิอันซ์ ควบรวมกิจการศรีอยุธยา แคปปิตอล

ค่ายอลิอันซ์ ผนึกศรีอยุธยา แคปปิตอล ดันธุรกิจประกันวินาศภัย ในชื่อใหม่ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล ขึ้นชั้น TOP 10 ระบุ ชื่อในตลาดหุ้นยังใช้ AYUD เช่นเดิม ยอมรับอาจส่งต่อราคาหุ้น แต่อนาคตดีแน่ เผยหวังสร้างทีมขาย “2 ไลน์เซน” ดันทีมขายประกันชีวิต ขายพ่วงประกันวินาศภัย
การจัดแถลงข่าวควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.อลิอันซ์ ประกันภัย และ บมจ. ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย ซึ่งต่างก็เป็น “บริษัทประกันวินาศภัย” ทั้งคู่ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลสะเทือนให้กับวงการประกันภัยเมืองไทยทีเดียว
แม้ต้นทางของ 2 บริษัทที่เพิ่งประกาศควบรวมกิจการ จะอยู่ในซีก “ธุรกิจประกันวินาศภัย” ทว่าเนื้อแท้ของ “อลิอันซ์ เยอรมนี” ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ.อยุธยาประกันกันชีวิต และบมจ.อลิอันซ์ ประกันภัย รวมถึงถือหุ้นรายใหญ่สุดใน บมจ. ศรีอยุธยา แคปปิตอล (AYUD) มากถึงราว 45% นั้น คาดหวังจะเห็นตัวแทนขายประกัน ขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย ทั้งในส่วนที่เป็น “ไลฟ์” และ “นอน ไลฟ์” ควบคู่กันไปในคราวเดียว
ซึ่ง มร.ไบรอัน สมิธ กับตำแหน่งใหม่ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล (Allianz Ayudhya Capital PCL) ชื่อใหม่หลังการควบรวมกิจการ ระบุว่า ตอนนี้ มีพนักงานของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ที่ได้ “ไลน์เซน” ขายทั้งผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย มีมากถึงราว 470 คน ทั้งนี้ หากพนักงานหรือตัวแทนต้องการทั้ง “2 ไลน์เซน” ก็จะต้องยื่นขอและสอบให้ผ่าน จนได้รับการรับรองจากภาครัฐ
นอกจากนี้ มร.ไบรอัน สมิธ ยังได้รับตำแหน่งใหม่เป็นผู้จัดการประจำประเทศไทยของอลิอันซ์ ดูแลภาพรวมการประกอบธุรกิจในประเทศไทย และยังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โดยที่ มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ ผู้บริหารอีกคนจากอลิอันซ์ จะทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัยแยกบริษัทประกันชีวิตกับประกันวินาศภัยจากกัน อย่างน้อยก็ในแง่ของข้อกฎหมาย
ขณะที่ นายวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ยังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล ต่อไป
มร.ไบรอัน สมิธ ระบุว่า ความร่วมมือที่แนบแน่นของธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันภัยในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขนาดการลงทุนและสร้างนวัตกรรมในประเทศ ทั้งยังสร้างให้เกิดความมั่นใจว่าพันธมิตรจะร่วมกันกระตุ้นการเติบโตและส่งมอบมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้นให้กับลูกค้าในประเทศไทย โดยหลังจากนี้ AYUD จะเปลี่ยนชื่อเป็น Allianz Ayudhya Capital PCL แต่ยังคงจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อ AYUD นอกจากนี้ ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย (SAGI) จะเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย (Allianz Ayudhya General Insurance PCL)
สำหรับพนักงานของบริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการ มากกว่า 1,400 คนนั้น เขาย้ำว่า ยังไม่มีแผนที่จะปรับลดในตอนนี้ เนื่องจากต้องทำภารกิจหลักให้เสร็จสิ้นก่อน นั่นคือ การทำให้องค์กรใหม่เกิดความเข้มแข็ง มั่นคง และเป็นที่ยอมรับของลูกค้า เนื่องจากเป้าหมายใหม่ต้องการจะรุกตลาดในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพที่มี กับฐานลูกค้ารวมกันกว่า 1.4 ล้านคน และยอดเบี้ยรับรวมราว 6,500 ล้านบาท นั่นทำให้บริษัทฯใหม่ก้าวกระโดดจากอันดับที่ 19 ขึ้นมาอยู่ใน “10 อันดับแรก” ของธุรกิจประกันภัยในไทย
“การรวมบริษัทในครั้งนี้ ทำให้เรากลายเป็นธุรกิจประกันภัยขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมรับการเติบโตและนวัตกรรมในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทหลัก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยจะอยู่ภายใต้แบรนด์ อลิอันซ์ อยุธยา ถือเป็นการสร้างแบรนด์ให้เด่นชัดมากขึ้นในตลาดภายในประเทศ ทั้งยังเป็นการส่งมอบประสบการณ์มาตรฐานเดียวกันให้กับลูกค้า พูดได้ว่าเราเป็นแฟรนไชส์ธุรกิจประกันที่แข็งแกร่งมากขึ้น ถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมธุรกิจสำหรับลูกค้าในประเทศและภาคธุรกิจประกันของไทย ทั้งนี้ ยังจะเร่งการเติบโตและส่งมอบมูลค่าที่เพิ่มขึ้นให้กับลูกค้าในไทยได้เป็นอย่างดี”
กับข้อสงสัยที่ว่า ภายหลังการควบรวมกิจการ ราคาหุ้นของ AYUD จะได้รับผลกระทบหรือไม่? มร.ไบรอัน สมิธ กล่าวว่า อาจมีผลกระทบบ้าง แต่เพราะการควบรวมกิจการเป็นเรื่องดี เชื่อว่าอนาคตราคาหุ้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานที่ดีแน่นอน.