CIMB THAI เศรษฐกิจเอเชียหลังปิดม่านไม้ไผ่
สงครามการค้าโลกเริ่มลามไทยกระทบภาคการลงทุนและการบริโภค เรามุ่งเน้นมองสงครามการค้าด้านจีนจะทำทุกทางที่เศรษฐกิจจีนจะไม่ทดถอยส่วนด้านสหรัฐก็จะออกแรงตอบโต้จีน
ดร.โดนัล ฮานนา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ภูมิภาค กลุ่มซีไอเอ็มบี กล่าวว่าเศรษฐกิจเอเชียหลังปิดม่านไม้ไผ่ โดยเปรียบเทียบความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนที่ขยายจากสงครามการค้าต่อเนื่องมาเป็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์เหมือนกับการค่อยๆ ดึงม่านไม้ไผ่ลงมาปิดกั้นความสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดประเด็นที่น่าจับตา คือ การแยกกันพัฒนาเทคโนโลยี 5G ของสหรัฐและจีน ทำให้ผู้บริโภคต้องเลือก และมีต้นทุนสูงขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานต่ำลง และการที่เศรษฐกิจจีนชะลอลงจากสงครามการค้า แต่เร่งโต หากจีนบริหารจัดการไม่ดี จะมีปัญหาผลกระทบกับไทยและอาเซียนได้ ด้านเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ถึงขั้นถดถอย แม้นักลงทุนมองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 4 ครั้ง หรือ 1% ภายใน 12 เดือนข้างหน้า แต่ซีไอเอ็มบีมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ถึงขั้นถดถอย การลดดอกเบี้ยอาจจะไม่ได้แรง ดังนั้น การปรับลดลงของม่านไม้ไผ่เป็นประเด็นที่ไทยและประเทศอาเซียนต้องระมัดระวัง ต้องพยายามเสริมความสัมพันธ์กันในอาเซียนให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับภาวะของความไม่แน่นอน และเร่งลดต้นทุนพร้อมสร้างประสิทธิภาพการผลิต
ในส่วนของเฟด มองว่าเศรฐกิจดีขึ้น อาจลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม62 ตลาดอาจจะไหลออกและจะมีผลทำให้ค่าเงินอ่อนตัวแต่มีความพยายามลดความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยในอนาคต ส่วนในเอเชียตลาดอาจลดดอกเบี้ยในกลุ่มประเทศและธนบัตรรัฐบาล สำหรับประเทศไทยยังเป็นข่าวดีของไทยตอนนี้บาทแข็งค่าอาจจะกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าในราคาต่ำมากขึ้น
ด้านดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่าสงครามการค้าโลกเริ่มลามมาไทย กระทบภาคการลงทุนและการบริโภคแล้ว สำนักวิจัยฯ ได้ปรับลดคาดการณ์ ลงจาก 3.3% เหลือ 2.8% และมองว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐจะช่วยประคองเศรษฐกิจไม่ให้ย่ำแย่ไปมากกว่านี้ ผ่านการประคองการบริโภคระดับล่าง ขณะเดียวกัน มองว่านโยบายที่จะกระตุ้นภาคการลงทุนมีความจำเป็นอย่างมาก จึงอยากกระตุ้นให้รัฐบาลประคองเศรษฐกิจ โดยเร่งกระตุ้นการลงทุน
ดร.อมรเทพ สรุป5ประเด็นที่น่าสนใจ
1 สงครามการค้าแต่ยังคงมีต่อเนื่อง
2สงครามเทคโนโลยีคือเรื่องของต้นทุนที่สูงขึ้นและประสิทธิภาพต่ำลง
3เศรษฐกิจจีนไม่ได้ชะลอจากสงครามการค้าแต่ชะลอตัวอยู่แล้ว
4สินเชื่อจีนตกกว่าGDPแต่ยังไม่ได้เกิดภาวะวิกฤต
5เฟดจะลดดอกเบี้ยแรงหรือเปล่าการลดดอกเบี้ยน่าจะไม่แรงต่ำนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้