บาทอ่อนค่าหลังกนง.ลดดอกเบี้ย

เงินบาทเริ่มพลิกอ่อนค่า หลังกนง.ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย และเผชิญแรงขายเพิ่มเติมตามราคาทองคำตลาดโลกที่ร่วงหลุดระดับ 2,900 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ช่วงท้าย ๆ สัปดาห์
เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือน (นับตั้งแต่ 22 ต.ค. 2567) ที่ 33.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลก
อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ หลังกนง. มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 1 เสียง
ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยลง 0.25% มาที่ระดับ 2.00% (ตลาดคาดว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25% ตามเดิม)
ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมตามสัญญาณตึงเครียดของสงครามการค้า หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวย้ำว่า สหรัฐฯ จะมีการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกใน อัตรา 25% และจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค. นี้ เงินบาทยังคงปรับตัวอ่อนค่าในช่วงปลายสัปดาห์ โดยอ่อนค่าผ่านแนว 34.00
เงินบาทพลิกอ่อนค่า ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงหลุดแนว 1,200 จุด ช่วงปลายสัปดาห์ 24-28 กุมภาพันธ์ 2568 ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ตามทิศทางฟันด์โฟลว์ต่างชาติ และการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกที่หลุดระดับ 2,900 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ลงมา
ในวันศุกร์ที่ 28 ก.พ. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 34.12 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.61 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 ก.พ.)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ. 2568 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 10,232 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 531 ล้านบาท (แบ่งเป็นซื้อสุทธิพันธบัตร 494 ล้านบาท แต่ตราสารหนี้หมดอายุ 1,025 ล้านบาท)
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 3-7 มี.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ ระดับ 33.60-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของไทย สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และประเทศคู่ค้าอื่น ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลการประชุม ECB ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกและสัญญาณฟันด์โฟลว์ในตลาดการเงินไทย
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค. รายงาน Beige Book ของเฟด รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) และตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของยูโรโซน และตัวเลขการส่งออกเดือนม.ค.-ก.พ. ของจีนด้วยเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : SCB มองเงินบาทไม่เปลี่ยนแปลง แม้กนง.ลดดอกเบี้ย